หลายปีก่อนตอนที่ยังเป็นักศึกษาคณะสัตวแพทย์ มช. อยู่นั้น ผมชอบไปนั่งเล่นที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ใจจริงเพราะผมชอบสัตว์ป่า และหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากเป็นหมอสัตว์ป่านั้นได้แก่สัตว์สองชนิด คือช้าง กับนกเงือก
ที่ชอบนกเงือกนั้น เพราะว่าเมื่อก่อนโน้น ตอนเรียนมัธยม เคยเห็นนกเงือกบินมาเกาะสายไฟฟ้าอยู่ตรงแถวตลาด ก็เลยสงสัยว่า “มาได้ไงวะ” นกเงือกมันอยู่ในป่าไม่ใช่เหรอ ทำไมมาโผล่บนสายไฟได้ หรือว่าหลงทาง โดยธรรมชาติของนกเงือกนั้นจะรักเดียวใจเดียว บวกกับการดีไซน์ของธรรมชาติให้มีจงอยปากใหญ่ ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่านกอะไร…
ตอนผมเรียนอยู่ปี 3 มีตัวเรียนชื่อ VIP : Veterinary Integrated Problem หรือชื่อไทยว่า ไขปัญหาบูรณาการทางสัตวแพทย์ ซึ่งเป็นวิชาที่ผมชอบมากที่สุด แต่หน่วยกิตน้อยที่สุดเช่นเดียวกัน ซึ่งเทียบอะไรไม่ได้กับการได้ C ในวิชา BIOCHEMISTRY 6 หน่วยกิจ
ครั้งหนึ่งกลุ่มผมได้ทำรายการเกี่ยวกับ นกเงือก ซึ่งหนังสือเกี่ยวกับนกเงือกในไทยนั้น นับเล่มได้เลยครับ ตอนนั้นที่ผมใช้อ้างอิงได้มีอยู่เล่มเดียว เป็นรายงานของอาจารย์ผู้หญิงท่านหนึ่ง เป็นภาษาอังกฤษล้วน หนาประมาณ 20 หน้า A4 ที่ท่านศึกษาวิจัยเกี่ยวกับนกเงือกอยู่ทางภาคใต้ ผมต้องขอโทษเป็นอย่างสูงครับที่ผมจำชื่อท่านไม่ได้ ผมต้องขออขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงครับที่ให้ทั้งความรู้และแรงบันดาลใจให้กับผม และผมก็แอบแปลเป็นไทยทั้งหมดเช่นกันครับ ตั้งใจไว้ว่าจะไว้ส่งมอบให้กับน้องรหัส ซึงตอนนั้น นอกจากนกเงือกแล้ว ผมก็ยังแอบแปลงานที่เกี่ยวกับช้าง Africa แล้วก็ช้าง Asia เก็บไว้เป็นส่วนตัวด้วย ต้องขอขอบคุณเครื่องถ่ายเอกสารกับสแกนเนอร์ที่ทำให้ผมได้มุมมองอะไรใหม่ ๆ มาอีกมากมาย (ตอนนั้นกล้องดิจิตอลยังไม่แพร่หลายเลยครับ ปี 2541)
ด้วยความที่เบื่อหน่ายในการเรียนแบบ 2D ผมจึงสะสมภาพพวกนี้ พร้อมทั้งเอกสารที่ผมแปลไว้ เอามาทำเป็น Interactive ของตัวเอง ซึ่งในตอนนั้นก็คงไม่มีโปรแกรมอื่นใดนอกจาก FLASH เท่านั้น เพราะผมลองนึกภาพว่าในชั่วโมงเรียน ที่เรากำลังพูดถึงส่วนต่อระหว่างลำไส้ใหญ่กับลำไส้เล็ก หรือพูดถึงฟัน Incisor หรือ Premolar นั้น จะสามารถใช้เม้าส์คลิ๊กแล้วเห็นภาพเห็นตำแหน่งจริง ๆ ได้ชัดเจนเลย ไม่ต้องมานั่งเปิด Anatomy ดูแล้วจินตนาการเอา ผมอยากทำให้รุ่นน้องต่อ ๆ ไปเรียนหนังสือให้ง่่ายขึ้น
อีกอย่างที่ผมพยายามสะสมในสมัยนั้น คือฟิล์ม X-ray ครับ เพราะผมคิดว่า ถ้าเรามีฟิล์มปกติเก็บไว้ เปรียบเทียบกับฟิล์มที่มีรอยโรคหรือความผิดปกติ มันจะได้คุ้นตาและทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งมันยากมากที่จะสะสมแล้วทำการเปรียบเทียบแบบนั้นได้ ต้องใช้ระยะเวลานานทีเดียว จนผมล้มเลิกความคิดนั้นไปเสียหลังจากทำได้สักพัก
… ผมไม่เสียดายที่ไม่ได้เป็นสัตวแพทย์ในท้ายที่สุด เพราะสิ่งที่ผมได้ชดเชยกลับมาคือ… ผมได้เป็นตัวของตัวเองกับวิถีชีิวิตที่ผมเลือก
หลายปีมาแล้วที่ลุงคนนี้สอนให้ผมเลี้ยงช้าง ( ผมจำชื่อลุงไม่ได้อีกแล้วครับ ขอโทษจริง ๆ ครับ )
ตอนนั้นสวนสัตว์เชียงใหม่ เพิ่งได้ลูกช้างชื่อไชโย ได้ไม่นาน เมื่อก่อนสวนสัตว์ก็จะมีการเดินพาเหรด จัดขบวนสัตว์เดินรอบสวนสัตว์ ช่วงที่ผมไปฝึกงานนั้น ก็ได้ไปช่วยลุงแกเลี้ยงช้าง ซึ่งก็ได้ช่วยเตรียมอาหารและที่สำคัญได้มีส่วนร่วมในการพาแม่ช้างและช้างน้อยไชโยไปซ้อมเดินพาเหรด ไชโยเองนั้น ใช่ว่าจะนิ่ง ๆ เดินไปเดินมาวนซ้ายวนขวา ลุงแกเองก็ขี่แม่ช้างอยู่ แม่ช้างก็เหมือนจะเป็นห่วงลูกไชโย บางทีก็ส่งเสียงบอกลูก คล้าย ๆ ว่า อย่าซน เพราะระหว่างเดินมันก็จะเอางวงไปเกี่ยวนั่นเกี่ยวนี่ระหว่างทางอยู่เลย คือซนอะ ว่างั้นเถอะ ทีนี้มีอยู่ตอนหนึ่งที่ไชโยหงุดหงิด หันหลังกลับแล้วจะวิ่งเข้าหาผม สารภาพว่าแทบช็อคครับ เพราะว่าช้างเด็กวิ่งเข้าหานี่ ตายได้เหมือนกันครับ ตอนนั้นความสูงของไชโยก็พอ ๆ กับความสูงของผมแหละครับ แต่มวลบวกกับความเร็ว ถ้าผมไม่สามารถหยุดไชโยได้ ผมคงไม่ตายก็พิการ นึกขึ้นได้ว่าลุงแกให้ไม้อันหนึ่งขนาดและความยาวเท่าด้ามไม้กวาดที่เรากวาดบ้านนี่แหละครับ แต่ปลายไม้มีตะปูตอกไว้อยู่ ผมต้องเอาไม้นั่นแหละทิ่มหัวไชโยไว้ เพื่อหยุด !!! ดีทีี่มันได้ผลครับ มันก็เป็นบทเรียนอันระทึกใจใช้ได้เลย อีกอย่างก็คือ ที่เขาบอกว่า ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ที่แน่ ๆ ที่ผมรู้ก็คือ อย่าไปดูหางช้างในรัศมีที่หางช้างแกว่งไปมาได้ เพราะถ้าโดนหางช้างฟาดแบบเล่น ๆ อาจทำให้ผิวหนังแตกลึกได้ (อันนี้ผมไม่โดนครับ)
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่ผมต้องไปเตรียมอาหารให้ลิงชิมแปนซี พี่คนเลี้ยงแกก็ให้ผมปอกสับปะรด กล้วย แล้วก็ผลไม้อีกสองสามอย่าง เตรียมไว้ให้ลิง ลิงที่อยู่ในกรงก็เดินมาดู เกาะลูกกรงดู แล้วมันก็ร้องเสียงต่ำ ๆ กระโดดไปมา เห็นพี่คนเลี้ยงแกจะแกล้งมันเสียหน่อย ก็เอาด้ามไม้กวาดไปแหย่มัน ลิงตัวผู้นั้นก็วิ่งวนไปมา พี่แกก็แกล้งเอาไม้กวาดแหย่อีก คราวนี้ผมพูดไม่ออกเลยครับ ลิงตัวผู้เดินเข้าไปหลบมุม แล้วนั่งนิ่ง ๆ หันหลังให้ พี่คนเลี้ยงก็ร้องเรียกแล้วก็เอาไม้กวาดเคาะ ๆ ประตูกรง ….
ลิงมันนั่งขี้ใส่มือแล้วหมุนตัวปาขี้ออกมาครับ ขี้ทะลุกรงติดหน้าพี่คนเลี้ยงเลย ผมนี่หุบยิ้มแทบไม่ทัน กลัวแกเสียหน้า เออ ลิงฉลาดดี อยากไปแกล้งมันก่อน ตัวเดียวกันนี้แหละครับที่ผมเห็นใครไม่รู้มือบอน เอากล่องนมเปรี้ยวให้มัน ผมเห็นมันนั่งดูดนมจากหลอดคากล่องอยู่เลย นี่ถ้ายืนตัวตรงได้ก็เป็นคนสมบูรณ์แบบแล้ว…
ต้องอธิบายก่อนนะครับว่า ไม่ใช่ว่าคนเลี้ยงรังแกสัตว์ แต่ก็มีกันแค่นี้แหละครับที่ให้อาหารกัน เจอกันกับสัตว์ทุกวัน บางทีก็หยิกแกมหยอกกันสนุก ๆ ไม่ได้เป็นการคุกคามสัตว์จนเกินไป มันเป็นความผูกพันเหมือนหยอกล้อเพื่อนฝูงแบบนั้นมากกว่า





การกลับไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ครั้งนี้ ก็เพราะ AQUARIUM ผมเก็บภาพมาฝากกันครับ หากมีน้อง ๆ เด็ก ๆ ผมว่าคุ้มครับ เหมาะกับวันครอบครัว