อย่างที่เป็นข่าวกันอยู่ในตอนนี้นะครับ ไม่ว่าจะเป็น การระวังตัวซึ่งกันละกันของ Apple กับ Google เรื่องการเก็บข้อมูลพิกัดตำแหน่งของผู้ใช้ google map
สำนักข่าว BBC มีรายงานถึงเรื่องนี้ โดยยกตัวอย่าง Shabhankar Ray ผู้จัดการแบรนด์ดังระดับโลก สัญชาติเนเธอร์แลนด์อย่าง G-Star Raw
Shabhankar Ray ใช้โอกาสทุกอย่างทั้งการตลาดและการโฆษณาและที่สำคัญเขาไม่มีเวลาเหลือพอสำหรับไอเดียที่ไม่เวิร์ค แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาตัดสินใจลงทุุนในเครื่องมือการตลาดอันใหม่ซึ่งเขายอมรับว่ารู้จักมันน้อยกว่าลูกสาววัย 14 ปีของเขาเสียอีก
เขารู้ว่าเครื่องมือนี้ จะทำงานอย่างไรในมุมมองของผูบริโภคคนนั้น ๆ ซึ่งหมายถึงใครสักคนที่ใช้มือถือที่มีระบบระบุตำแหน่งบนพื้นโลก (GPS ) เพื่อที่จะบอกว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนและในทางกลับกันพวกเขาเหล่านั้นก็จะได้รับการเสนอโปรโมชันพิเศษจากกลุ่มธุรกิจที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
แน่นอนเขาไม่ได้แน่ใจนักหรอกว่า “การตลาดแบบอิงตามตำแหน่งสถานที่” นี้จะแปรเปลี่ยนเป็นผลกำไรมากมายให้กับ G-Star Raw ได้อย่างไร
Ray บอกว่า มันเหมือนกับเป็นการเดินทางสำรวจ ที่บริษัทของเขาทุกคนล้วนอายุสี่สิบปีขึ้นไป ดังนั้นเราต้องเรียนรู้ไปกับมัน
เมื่อมันเป็น การบริการแบบอิงตามตำแหน่งสถานที่ ทั้งหมดที่ผมรู้ก็คือ เราต้องอยู่ที่นั่นและผมก็ไม่รู้ว่าจะมีสักกี่คนเข้ามาที่ร้านเรา
การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Facebook ได้สอนให้ Ray รู้ว่า เขาต้องกระจายการลงทุนไปในเครือข่ายและรูปแบบที่ต่าง ๆ กันออกไป
“เราได้เรียนรู้แล้วว่า จะนำเสนอตัวเองบนเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างไรโดยไม่ต้องคาดหวังการวัดผลที่ชัดเจนหรือผลตอบแทนทางธุรกิจ”
เราไม่เคยตั้งความหวังจาก Facebook และเดี๋ยวนี้เรามีเพื่อนกว่า 250,000 คน แล้วในที่สุดการให้บริการแบบอิงตามตำแหน่งสถานที่จะได้รับความนิยมในทำนองเดียวกัน
มันพูดยาก
Ray อาจจะมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการมองโลกในแง่ดีของเขา แต่ก็ไม่ใช่ว่าขาดความรู้เสียทีเดียว แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ยังยอมรับว่าขาดข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถเชิงพาณิชย์จากการให้บริการแบบอิงตามตำแหน่งสถานที่
Martin Garner จาก Mobile telecom research firm CCS Insight. บอกว่า “มันไม่มีข้อมูลหรือว่ากลไกตอบสนองใด ๆ ที่จำเป็นสำหรับธุรกิจเพื่อที่จะรู้ว่าการให้บริการแบบอิงตามตำแหน่งสถานที่เป็นความคิดที่เข้าท่า”
การให้บริการแบบอิงตามตำแหน่งสถานที่ อ้างว่ามีผู้ใช้งานหลายล้านคนและมีธุรกิจอีกเป็นแสนที่เข้าร่วม แต่ไม่มีการเปิดเผยว่ามีการใช้เงินไปเท่าไหร่ผ่านรูปแบบนี้
Garner เชื่อว่าการขาดข้อมูลเชิงพาณิชย์นี้มีสาเหตุหลักมาจาก ความไม่แน่นอนจากสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมใหม่มากกว่าความพยายามที่จะปกปิดสถิติที่ไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่ แต่ในขณะเดียวกัน เขายอมรับว่า การให้บริการแบบอิงตามตำแหน่งสถานที่ยังได้รับความสนใจช้ากว่าที่คาดไว้
“เรามีการคาดการณ์ที่ดีพอสมควร สำหรับการให้บริการแบบอิงตามตำแหน่งสถานที่ ในช่วงแรก แต่มันก็ไม่ได้เป็นรูปเป็นร่างเสียทีเดียว”
ในขณะที่ Garner ยังคงเชื่อว่าการให้บริการแบบอิงตามตำแหน่งสถานที่จะเป็นตัวกระตุ้นอย่างมากนั้นเขาก็เชื่อเช่นกันว่า พวกมันกำลังโตอย่างช้า ๆ เพราะว่ายังไม่มีใครค้นพบรูปแบบธุรกิจที่เจ๋ง ๆ เลย
สำหรับในช่วงแรก มีผู้ให้บริการแบบอิงตามตำแหน่งสถานที่อยู่หลายเจ้า แต่ละแห่งก็มีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันอยู่บ้างแต่ถ้ามองในภาพรวมแล้วก็ยังไม่มีใครกล่าวได้ว่าเพียบพร้อม บางบริการก็ดูมีแนวโน้มว่าจะถูกโกง เมื่อผู้ใช้พบวิธีการที่จะโกหกตำแหน่งของพวกเขา บางบริการก็มีจุดอ่อนให้พวกไล่ล่าคูปอง เช่น พวกคนที่เข้าไปใช้บริการเพียงเพื่อหวังจะได้รับส่วนลด ณ ตอนนั้น โดยไม่ได้สนใจที่จะกลับไปใช้บริการอีก
โดยส่วนมากเครือข่ายขนาดใหญ่ต้องการให้ผู้ใช้ ทำการเข้าสู่ระบบอีกครั้ง ณ ตำแหน่งที่เจาะจงไว้ ก่อนที่จะได้รับส่วนลดใดๆ แต่การทำเช่นนี้ก็จะเป็นการขัดขวางผู้ใช้ที่ไม่เต็มใจจะบอกตำแหน่งของเขาหรือแม้แต่การรูปแบบการเคลื่อนไหวแก่คนแปลกหน้า
Michiel Verberg เจ้าของผู้ให้บริการแอพพลิเคชันแบบอิงตามตำแหน่งสถานที่ Whatser บอกว่า “มันก็เหมือนกับช่วงแรกของการใช้ search engine เมื่อคุณมีตัวเลือกมากมาย เช่น Yahoo และ AltaVista ก่อนจะเป็น Google ในท้ายที่สุด เขาเชื่อว่า Whatser จะกลายเป็น Google รายต่อไป ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีผู้ใช้อยู่เพียง 20,000 รายเท่านั้น กระนั้นก็ตาม Verberg ยังล่อใจ Ray ให้เข้ามาสู่เครือข่ายของเขาและในปัจจุบัน G-Star’s Covent Garden store ได้กลายเป็นสถานที่ที่แนะนำแห่งหนึ่งจากทั้งหมด 80,000 แห่งของ Whatser
ที่มา: BBC