สำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ควบรวมกิจการ

Listen to this article

สำนักพิมพ์ Penguin และสำนักพิมพ์ Random House อยู่ระหว่างการพูดคุยตกลงถึงความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการเพื่อให้กลายเป็นสำนักพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Penguin และ Financial Times ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ลูกของ Pearson กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับBertelsmann ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติเยอรมันเจ้าของสำนักพิมพ์Random House และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจสื่อที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปถึงความเป็นไปได้ในการการควบรวมกิจการ ซึ่งจะทำให้สำนักพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก 2 ใน 6 แห่งสามารถสร้างฐานอำนาจใหม่ที่อาจครอบคลุมส่วนแบ่งการตลาดของหนังสือที่วางขายในอังกฤษถึง 25%

ทางด้านโฆษกของ Pearson ได้ยืนยันว่าบริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาควบรวมกิจการจริง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ณ เวลานี้แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าการพูดคุยดังกล่าวจะจบลงด้วยการควบรวมกิจการเสมอไป

สำหรับเรื่องดังกล่าวนั้นนักวิเคราะห์ได้เคยคาดการณ์มานานแล้วว่าจะต้องมีการควบรวมกิจการเกิดขึ้นในกลุ่มธุรกิจหนังสือ ซึ่งถูกครอบงำด้วยสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ 6 แห่ง ได้แก่ HarperCollins, Random House, Hachette, Simon & Schuster, Macmillan และ Penguin ธุรกิจกลุ่มนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงสองสามปีมานี้เนื่องจากความนิยมในตัวเครื่องอ่าน e-book และจากการขายหนังสือให้กับคนจำนวนมากผ่านซูเปอร์มาเก็ต

ข่าวการควบรวมกิจการนี้เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ภายหลังจากที่ Dame Marjorie Scardino หัวหน้าผู้บริหารของ Pearson ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวมากว่า 15 ปี ประกาศลงจากตำแหน่ง นอกจากนี้แล้วการประกาศลาออกของเธอยังถูกนำไปวิเคราะห์ว่าอาจจะต้องปิดหนังสือพิมพ์ Financial Time ด้วย ซึ่งเธอก็ได้แสดงความประหลาดใจและกล่าวว่า “ข้ามศพฉันไปก่อน”

ทางด้านนักวิเคราะห์เชื่อว่า John Fallon หัวหน้าผู้บริหารคนใหม่ซึ่งไม่ได้มีประสบการณ์ทางด้านสิ่งพิมพ์มาก่อนนั้น สามารถตัดสินใจที่จะขายทั้ง Financial Time และ Penguin ออกไปได้ทั้งคู่ เนื่องจากว่าทั้งสองหน่วยธุรกิจไม่เหมาะกับวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของ Pearson ที่จะมุ่งเน้นไปในส่วนธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษา

Bertelsmann เจ้าของสำนักพิมพ์ Random Houseทางด้าน Lorna Tibian หัวหน้านักวิเคราะห์สื่อที่ Numis กล่าวว่า “ไม่น่าแปลกใจ” ที่สำนักพิมพ์ใหญ่ต่างก็ค้นหาความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการ “การควบรวมกิจการเป็นกฎของทุกวันนี้ และด้วยอิทธิพลของเทคโนโลยีและแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดโมเมนตัมพิเศษ” สำนักพิมพ์ต้องรวมกลุ่มกันเพื่อให้มีกำลังมากพอเพื่อที่จะต่อสู้กับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ได้เปลี่ยนรูปแบบกลุ่มธุรกิจนี้ไป” ฉันเห็นโลกใบหนึ่งที่ซึ่ง Apple Amazon และ Google กลายเป็น Time Warner , News Corp และ Walt Disney ในศตวรรษที่ 21 เพียงแต่พวกเขาไม่ได้บริหารเทคโนโลยีและเนื้อหาเท่านั้นแต่ยังกระจายสินค้าเองด้วย

นอกจากนี้การควบรวมกิจการอาจจะช่วยลดแนวโน้มที่จะตัดขายส่วนของ Financial Time ออกไป เนื่องจากการควบรวมกิจการหากตกลงกันได้นั้นจะทำให้ Bertelsmann เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และจะช่วยทำให้ Pearson มีเงินสดมากพอที่จะลงทุนในส่วนธุรกิจหลักที่เกี่ยวกับการศึกษาได้

ข่าวการควบรวมกิจการในครั้งนี้ถูกรายงานโดย Manager Magazin โดยแหล่งข่าวอ้างว่าสำนักพิมพ์ทั้งสองแห่งได้เริ่มต้นเจรจากับสำนักงานการแข่งขันทางการค้าของยุโรปและสหรัฐฯ และกล่าวว่า Bertelsmann จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทที่ได้ควบรวมกิจการโดยในส่วนของ Pearson จะถือหุ้นน้อยกว่า 50%

อนึ่ง สำนักพิมพ์ Penguin มียอดขายต่อปีราว 1 พันล้านปอนด์ และ Random House มียอดขายต่อปีอยู่ที่ราว 1.4 พันล้านปอนด์

การควบรวมกิจการระหว่าง Penguin และ Random House จะทำให้เกิดอิทธิพลอย่างมากต่อตลาดหนังสือตัวเล่ม ebook และ app โดยเฉพาะในอังกฤษส่วนแบ่งตลาดของสำนักพิมพ์ทั้งสองแห่งรวมกันก็สูงกว่า 25% นั่นหมายความว่าข้อตกลงใด ๆ ก็ตามมีแนวโน้มที่จะต้องเจอกับการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนจากสำนักงานการแข่งขันทางการค้า

“แต่การเจรจาเพื่อควบรวมกิจการนี้ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ดูจากส่วนแบ่งการตลาดของ Amazon ในส่วนของหนังสือตัวเล่มและ ebook ในอังกฤษเติบโตขึ้นมาแตะ 40% อย่างรวดเร็วซึ่งคู่แข่งของ Amazon ในตอนนี้ที่พอจะสู้กันแบบพอฟัดพอเหวี่ยงเห็นจะมีเพียง Apple และ Google เท่านั้นสำนักพิมพ์เพียงแต่ต้องการอำนาจต่อรองที่มากขึ้น แม้ว่าการการเจรจาควบรวมกิจการในครั้งนี้นั้นจะถูกคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ว่ายังไม่เคยมีการควบรวมกิจการของธุรกิจระดับใหญ่แบบนี้ในรอบหกปี

update : 28 October 2012

Herothailand.com
ข่าวล่าสุด Rupert Murdoch เจ้าของ News Corp ที่มีสำนักพิมพ์ HarperCollins อยู่ในมือ แสดงความสนใจที่จะควบรวมกิจการกับ Penguin แข่งกับ Bertelsmann เจ้าของ Random House ซึ่งคาดว่าจะขออนุมัติบอร์ดใช้เม็ดเงินกว่า หนึ่งพันล้านปอนด์เพื่อควบรวมกิจการ ….

ผมกำลังนั่งคิดว่า ถ้าวันต่อไปมีข่าว Google สนใจซื้อบ้าง เพื่อลดปัญหาคดีความที่ฟ้องร้องกันเรื่องสแกนหนังสือ เหมือนกับที่ทาง Amazon เปิดสำนักพิมพ์ของตน เพื่อคานอำนาจในการกำหนดราคาหนังสือจากสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ 6 แห่งของโลก ศึกครั้งนี้คงไม่ต่างจาก สามก๊กเท่าไหร่เลย

ในอดีตตอนที่ Amazon เริ่มบูมใหม่ ๆ ทาง Bertelsmann ก็เคยขอหุ้นด้วย แต่ Jeff Bezos ซีอีโอของ Amazon ไม่ตกลง ทาง Bertelsmann เลยเล่นเกมส์ไล่ซื้อสายส่งหนังสือเสียเลย แต่ว่าทางนั้นไม่เล่นด้วย Amazon ก็เลยรอดมาได้ นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งของการรุกตลาด ebook เพื่อแก้ปัญหาการถูกสกัดดาวรุ่งจากกลุ่มทุนขนาดใหญ่

หาก Penguin ควบรวมกับ Bertelsmann ได้นั้น จะครองส่วนแบ่งการตลาดหนังสือภาษาอังกฤษเกือบ 30% แต่ถ้าหากเป็น Penguin ควบรวมกับ HarperCollins จะครองส่วนแบ่งการตลาดราว 20%

คำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวผมคือ … ทำไมมันไม่ไปทำอาชีพอื่นกันนนนนนนนนน เฮ้อ..

สนับสนุนการทำบทความ กดไลค์ กดแชร์ หรือสามารถบริจาคเงินเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเราได้ที่
ธนาคารไทยพาณิชย์: สาขามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อบัญชี : HEROTHAILAND.COM
บัญชี : ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี : 667-265599-4

Similar Articles

Comments

Advertisement

โปรโมชั่น 2 ขวด Protriva Black seeds อาหารเสริมน้ำมันงาดำ จำนวน 2 ขวด

Royal Kludge RK68

Royal Kludge RK68 RGB Hotswap USB HUB คีย์บอร์ดเกมมิ่งคีย์ไทย ไร้สายบลูทูธและมีสาย เปลี่ยนสวิตซ์ได้ เลเซอร์ไทย - English

Most Popular

ฮาร์ดดิสโน๊ตบุ๊ค 1TB SSD M.2

1TB SSD (เอสเอสดี) HIKVISION E3000 M.2 PCI-e Gen 3 x 4 NVMe ประกัน 5 ปี