Nir Zuk ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าฝ่ายเทคนิคของ Palo Alto Networks ที่เป็นบริษัทเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย ซี่งช่วยให้หลายบริษัทสามารถใช้แอพพลิเคชันที่ทันสมัยอย่าง Facebook , WebEx และ Salesforce.com
บริษัทเอกชนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นด้วยเงินทุน 65 ล้านเหรียญสหรัฐจากบริษัทเงินทุนชั้นนำอย่างเช่น Globespan Capital Partners, Greylock Partners, JAFCO Ventures และ Sequoia Capital โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่เมือง Sunnyvale รัฐ California และมีตัวเลขการเติบโตจำนวนสามหลัก
อะไรคือปัญหาใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีสำหรับคุณในตอนนี้ ?
ผมคิดว่าความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเราในตอนนี้ก็คือความเปลี่ยนแปลงที่อินเตอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงไปเป็นแอพพลิเคชันที่บริษัทต่าง ๆ กำลังใช้กันอยู่ในตอนนี้
สำหรับเทคโนโลยีที่ใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้สำหรับป้องกันเครือข่ายของบริษัทต่าง ๆ นั้น เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันมากว่า 15 ปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษที่ 90 ซึ่งได้ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงเวลาที่อินเตอร์เน็ตเป็นแค่เว็บเบราเซอร์พื้น ๆ กับการใช้งานอีเมล์ ไม่ได้มี Facebook,WebEx หรือ Twitter
ทุกวันนี้ อินเตอร์เน็ตแตกต่างไปอย่างมากกับเมื่อกลางทศวรรษที่ 90 จนเมื่อกระทั่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมื่อผมได้พูดคุยกับหัวหน้าฝ่ายเทคนิคคนอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมนี้ สิ่งที่ได้ยินจากพวกเขาก็คือว่าพวกเขาไม่ได้ใส่ใจกับเทคโนโลยีดังกล่าว ไม่ได้สนใจ Facebook ไม่ได้ใส่ใจ Twitter พวกเขาไม่ได้สนใจแอพพลิเคชันอย่างเช่น Google Docs. พวกเขาไม่เห็นว่าจะได้อะไรจากแอพพลิเคชันเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ กำลังมองเห็นมูลค่าในสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นหัวหน้าฝ่ายเทคนิคจึงมีอุปสรรคชิ้นใหญ่เสียแล้ว
พวกเขากำลังยอมให้แอพพลิเคชันเหล่านี้เข้าถึงเครือข่ายของเขา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าโครงสร้างพื้นฐานของการรักษาความปลอดภัยในปัจจุบันไม่สามารถครอบคลุมความเสี่ยงที่มาจากแอพพลิชันพวกนี้ได้ งั้นหรือ ?
หรือพวกเขากำลังปิดกั้นแอพพลิเคชันเหล่านี้ ดึงให้บริษัทถอยออกมาจากการใช้แอพพลิเคชันและสูญเสียความสามารถในการแข่งขันบางอย่างเมือเทียบกับคู่แข่ง อย่างนั้นใช่ไหม ?
ดังนั้นปัญหาในตอนนี้ก็คือผู้ขายที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ผู้ที่ขายเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายทุกวันนี้ที่ไม่สามารถเชื่อมช่องว่างระหว่างแอพพลิเคชันเหล่านี้กับความต้องการความปลอดภัยในการใช้แอพพลิเคชัน
แล้วอะไรคือเทคโนโลยีที่สำคัญต่อไปในอุตสาหกรรมของคุณ ?
ผมคิดว่ามันคือสิ่งที่พัฒนาจากสิ่งที่ผมได้พูดไปแล้ว นั้นคือเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครอบคุลมโครงสร้างพื้นฐานบนทุกเครือข่าย ซึ่งรวมถึงสามารถตรวจหามัลแวร์ ช่องโหว่ต่าง ๆ การรั่วไหลของข้อมูลจากการใช้งานพื้นฐานอย่างเปิดดูเว็บไซต์ใช้อีเมล์ไปจนครอบคลุมถึงทุกแอพพลเคชัน
ถ้าหากมีสิ่งเหล่านี้ บริษัทต่าง ๆ ก็สามารถที่จะใช้แอพพลิชันทั้งหลายด้วยความปลอดภัยโดยที่ไม่ต้องลดระดับการรักษาความปลอดภัยหรือลดความสามารถในการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตกับพวกลูกค้าหรือคู่ค้าโดยใช้เครื่องมือการสื่อสารสมัยใหม่
อะไรคือความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงทางด้านเทคโนโลยีที่คุณเคยทำไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือว่าในชีวิตคุณเอง ?
ผมไม่รู้ว่าอะไรคือความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงที่ผมได้ทำแต่ว่าผมเคยมีส่วนในการทำผิดอยู่ครั้งหนึ่ง
ในอดีตตอนที่ผมทำงานกับบริษัทรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายแห่งหนึ่ง และเมื่อถึงจุดหนึ่งเราได้รับข้อเสนอขอซื้อกิจการด้วยเงินจำนวนมาก ราว ๆ สี่พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาจากบริษัทที่ใหญ่กว่ามาก ๆ เป็นบริษัทเครือข่ายบริษัทหนึ่งไม่ใช่บริษัทรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย
หลังจากนั้นผมคิดว่า ถ้าหากเราขายให้กับบริษัทที่ใหญ่กว่าซึ่งทำเครือข่ายทั่ว ๆ ไปจำพวกที่ขายเร้าเตอร์แล้วก็สวิตซ์ เราจะสามารถขยายตลาด เราจะได้รับเงินจำนวนมากจากการวิจัยและพัฒนา เราจะได้รับเงินจำนวนมากจากการทำการตลาดสินค้าของเราและจะเข้าหาลูกค้าได้ดีกว่า
มันถือเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง แต่มันเคยเป็นเพียงความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ !
เราค้นพบได้อย่างรวดเร็วว่าบริษัทรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายหลายแห่งนั้นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและเมื่อคุณถูกกลืนโดยบริษัทรับทำเครือข่ายที่ใหญ่กว่าคุณจะสูญเสียความตั้งใจในเรื่องการรักษาความปลอดภัยและสุดท้่ายลูกค้าก็จะทิ้งคุณไป
มันเกิดขึ้นแล้วกับเรา มันเกิดขึ้นกับบริษัทอื่น ๆ ที่ถูกซื้อไปโดยบริษัทรับทำเครือข่ายที่ใหญ่กว่าและบริษัทที่ทำเพียงระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเดียว จะมีช่วงเวลาที่ง่ายขึ้นในการขายสินค้า
นี่คือความผิดพลาดและเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ หลังจากปีนั้นผมก็ลาออกและสร้างบริษัทใหม่ที่เชี่ยวชาญในเรื่องการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายและสร้างทุกสิ่งจากความยากลำบาก จนเดี๋ยวนี้เราค่อนข้างจะเป็นบริษัทใหญ่และผมไม่คิดว่าเรากำลังจะทำผิดซ้ำเดิมอีก
ที่มา : BBC