e-book กำลังโตวันโตคืน แต่ห้องสมุดกลับตกอยู่ในภาวะลำบาก

Listen to this article

บทความชิ้นนี้ อ้างอิงจากงานเขียนของ Laura Hazard Owen

 

image from wikipedia.org

รายงานช้ินใหม่จาก สมาคมห้องสมุดอเมริกัน ระบุว่า ทั้ง ๆ ที่ห้องสมุดมีจำนวน e-book สำหรับให้บริการเพ่ิมขึ้นเรื่อย ๆ นั้น ห้องสมุดเองก็กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน

ยิ่งมีความต้องการใช้ e-book เพิ่มขึ้นเท่าใด เงินอุดหนุนที่ห้องสมุดได้รับก็ลดลง

ห้องสมุดกว่า 75% ในปัจจุบัน มี e-book ให้บริการ เพ่ิมขึ้นจากปีที่แล้วที่มีห้องสมุดเพียง 67.2%  ในจำนวนนี้มี 39% ที่ให้ยืมเครื่องอ่าน e-book ด้วย นอกจากนี้ มีห้องสมุดราว 14% ที่ทำเว็บไซต์ของตนให้รองรับรับกับการแสดงผลบนอุปกรณ์พกพาอย่างโทรศัพท์มือถือ และมีห้องสมุดราว 7% ที่มี app

appPew รายงานว่า มีคนอเมริกันตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 12% ที่อ่าน e-book เคยยืมหนังสือ e-book จากห้องสมุดอย่างน้อยหนึ่งแห่งในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันกว่า 40%  ของห้องสมุดสาธารณะในสหรัฐฯ ได้รับเงินอุดหนุนลดลงในช่วงสามปีที่ผ่านมาติดต่อกัน

ผู้ใช้ห้องสมุดหลายรายยังไม่รู้ตัว ?

Pew ได้สอบถามกลุ่มตัวอย่างที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปว่าพวกเขารู้หรือไม่ว่าสามารถยืมหนังสือ e-book จากห้องสมุดได้ 62% ตอบว่า “ไม่แน่ใจ” นอกจากนี้แล้ว 48% ของผู้ที่มีเครื่องอ่าน e-book ( Kindle และ Nook ) ไม่รู้ว่าห้องสมุดให้ยืม e-book ได้ และ 47% ของผู้ที่อ่าน e-book ในรอบปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่าห้องสมุดมีการเปิดให้ยืม e-book

ที่ผ่านมาห้องสมุดเพ่ิงจะต่อสู้กับการรักษาความต้องการของผู้ใช้ห้องสมุดที่รู้ว่าสามารถยืม e-book ได้  โดยหัวหน้าห้องสมุดคนหนึ่งกล่าวว่า “ผมกังวลเกี่ยวกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในชุมชนของเราเกินกว่าที่เราจะรับมือได้ทันนั้น อาจจะสร้างความไม่พอใจกับให้กับผู้ใช้กลุ่มนี้รวมทั้งไม่มีเงินอุดหนุนมากพอที่จะจัดหารายการหนังสืออีกจำนวนมาก”

 

 


บรรณารักษ์ใช้เวลาไปมากมายกับการให้ความช่วยเหลือทางเทคโนโลยี 

 

 

Pew บอกว่า บรรณารักษ์ “เป็นกังวลกับความต้องการแบบใหม่ที่อยากให้พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการเกี่ยวกับอุปกรณ์แก็ตเจ็ท ไปจนถึงการจัดการเว็บแอพพลิเคชันใหม่ๆ ทุกอย่างและยังต้องแก้ปัญหาโปรแกรมทำงานผิดพลาดที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น ๆ ของอุปกรณ์ดิจิตอล อาจกล่าวได้ว่า “พวกเขาเป็นนักเทคโนโลยีที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง” เนื่องจากยังไม่มีการจัดฝึกอบรมพนักงานอย่างจริงจัง

บรรณารักษ์คนหนึ่งบอกกับ Pew ว่า “เราใช้เวลาในแต่ละวันของเราในการอธิบายว่า จะเอาหนังสือในห้องสมุดเปลี่ยนไปเป็น e-book ให้กับผู้อ่านได้อย่างไร” นอกจากนี้  “บรรณารักษ์ที่ค่อนข้างมีอายุของเราหลายคนได้รับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นของขวัญในช่วงสองปีมานี้ แต่คนเหล่านี้กลับต้องร้องขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ดังกล่าว ตั้งแต่ขั้นตอนการเสียบปลั๊กไปจนถึงว่าจะใช้มันเชื่อมต่อกับส่วนของ e-book ในหน้าเว็บไซต์ของห้องสมุดได้อย่างไร

ความสามารถในการค้นพบเป็นความท้าทายสำหรับที่นี่ด้วย

การค้นหาหนังสือ e-book ที่ห้องสมุดมีนั้นค่อนข้างยาก บรรณารักษ์หลายคนใช้บริการของ OverDrive เป็นผู้จัดหา e-book ให้แก่พวกเขา  แต่มันยังดูเหมือนว่าความสามารถในการค้นหายังทำได้ไม่ดีพอ บรรณารักษ์หลายคนจึงใช้วิธีการแก้ปัญหาด้วยสิ่งนี้  “ฉันจะไปที่ Amazon เพื่อค้นหาหนังสือที่ชอบ จากนั้นก็จะไปค้นหามันใน OverDrive  เนื่องจากหน้าตาการใช้งานของ Amazon ใช้งานได้ง่ายกว่ามาก”

บรรณารักษ์คนหนึ่ง เรียกขั้นตอนการชำระเงินการซื้อ e-book จากห้องสมุดแล้วค่อยดาวน์โหลดลงในอุปกรณ์ว่า “เป็นสิ่งที่ยาก ไม่คุ้นเคย และมีส่วนที่ต้องประมวลผลหลายส่วน ทำให้หลายคนล้มเลิกไปกลางทาง” ทั้งผู้ใช้และบรรณารักษ์

 

 

 

 

สำนักพิมพ์ไม่สามารถจัดหา e-book ได้มากพอ

หกสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่มียุทธศาสตร์เกี่ยวกับห้องสมุด e-book ของพวกเขาแตกต่างกัน แต่ที่เหมือนกันก็คือจำกัดการยืม e-book  บรรณารักษ์คนหนึ่งกล่าวว่า “เรื่องเงินไม่ใช่อุปสรรคใหญ่สำหรับเรา แต่อุปสรรคใหญ่สำหรับเราก็คือขาดสำนักพิมพ์และรายการหนังสือที่จะเพิ่มเข้าไปใน OverDrive เรากำลังซื้ออุปกรณ์ Nook และดาวน์โหลดหนังสือจำพวกหนังสือขายดี เพื่อที่จะเพ่ิมมันเข้าไปในรายการของเราใน OverDrive

Molly Raphael ประธานของสมาคมห้องสมุดอเมริกัน แสดงท่าทีต่อรายงานของ Pew ว่า “ห้องสมุดไม่สามารถไม่สามารถให้ยืมในสิ่งที่พวกเขาไม่ไม่ เรายังคงเรียกร้องให้สำนักพิมพ์เปิดให้มี e-book สำหรับห้องสมุดในราคาและเงื่อนไขที่ยุติธรรม”

 

อะไรที่ล่ะที่สามารถทำได้ ?

รายงานของ Pew และสมาคมห้องสมุดอเมริกัน สะท้อนความตื่นเต้นแต่ก็ยังสร้างความรู้สึกกลัวในแนวทางที่การปฏิวัติ e-book  รายงานของ Pew ระบุว่า คนอเมริกันจำนวน 69%  มองว่าห้องสมุดมีความสำคัญกับพวกเขาและครอบครัว แต่หากห้องสมุดต้องเผชิญกับการตัดเงินอุดหนุน รัฐและเมืองต่าง ๆ รวมทั้งผู้ใช้ห้องสมุดจะต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากขึ้น

หากคนอเมริกันส่วนใหญ่เห็นว่าห้องสมุดเป็นสิ่งสำคัญ มันดูเหมือนว่าเราต้องการการสนับสนุนที่พิเศษไม่ใช่เพียงแต่เจตจำนงค์ที่ดีแต่ต้องผ่านการรณรงค์ให้สังคมรับทราบและเพ่ิมเงินทุนอุดหนุนสำหรับห้องสมุดท้องถิ่น

ในปัจจุบันนี้ ห้องสมุดสาธารณะของนิวยอร์ก เพิ่งเป็นหนึ่งในห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดและได้รับเงินทุนอุดหนุนมากที่สุดในประเทศ ต้องเจอกับการตัดลดงบประมาณถึง 43 ล้านเหรียญฯ ถ้าหากไม่มีการพิจารณาทบทวนเรื่องนี้ งบประมาณของห้องสมุดในปี 2013 นี้อาจจะต่ำกว่าในปี 2008 ถึง 40% นอกจากนี้บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งก็พร้อมทีี่จะมีบทบาทในพื้นที่นี้

บริษัทหลายแห่งอย่างเช่น Amazon , Barnes & Noble และ Apple ควรจะสนับสนุนห้องสมุดท้องถิ่นไม่เพียงแต่เพราะว่าพวกเขาดีกับชุมชนแต่เพราะว่าพวกเขาได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ๆ กับผู้ใช้ห้องสมุดและช่วยพวกเขาให้กลายเป็นลูกค้าที่ยอมจ่าย ในความเป็นจริง  Pew พบว่าผู้มีบัตรห้องสมุดโดยทั่วไปอ่านหนังสือจำนวนมากและยังเป็นเจ้าของเทคโนโลยี มีแนวโน้มที่พูดได้ว่าพวกเขาวางแผนซื้อเครื่องอ่าน e-book หรือแท็บเล็ตอีกด้วย

นอกจากนี้แล้ว ผู้อ่านหนังสือ e-book ส่วนใหญ่ชอบที่จะซื้อ e-book มากกว่ายืม ซึ่งคิดเป็นจำนวนถึง 61% และพวกเขาใช้ห้องสมุดเป็นสถานที่ในการค้นหาหนังสือเล่มใหม่ ๆ ดังนั้นเมื่อห้องสมุดต้องเจอกับความท้าทายในการจัดหาเทคโนโลยีเพื่อมาสนับสนุนและช่วยผู้อ่านในการใช้เครื่องอ่าน e-book เครื่องใหม่ของเขา ผู้ค้าปลีกหนังสือก็สามารถเล่นบทบาทที่ใหญ่กว่าได้โดยการจัดหาคู่มือการใช้ ข้อมูลและการสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีให้กับพนักงานห้องสมุด

สนับสนุนการทำบทความ กดไลค์ กดแชร์ หรือสามารถบริจาคเงินเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเราได้ที่
ธนาคารไทยพาณิชย์: สาขามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อบัญชี : HEROTHAILAND.COM
บัญชี : ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี : 667-265599-4

Similar Articles

Comments

พื้นที่ลงโฆษณา

สนใจลงโฆษณา ติดต่อ herothailand.com ราคาเพียง 500 บาทต่อปี

Advertisement

โปรโมชั่น 2 ขวด Protriva Black seeds อาหารเสริมน้ำมันงาดำ จำนวน 2 ขวด

Royal Kludge RK68

Royal Kludge RK68 RGB Hotswap USB HUB คีย์บอร์ดเกมมิ่งคีย์ไทย ไร้สายบลูทูธและมีสาย เปลี่ยนสวิตซ์ได้ เลเซอร์ไทย - English

Most Popular

Advertisement SHOPEE THAILAND

บ้านน้องแมว ทำจากไม้