ebook และการลดราคาหนังสือทำให้สำนักพิมพ์ปิดตัวลง
ebook และหนังสือลดราคาส่งผลให้สำนักพิมพ์จำนวน 98 แห่งต้องปิดตัวลง คิดเป็นเกือบ 42% ของสำนักพิมพ์ที่ได้ปิดตัวลงเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากหนังสือ ebook และแรงกดดันมหาศาลจากกำไรที่ลดลงทำให้สำนักพิมพ์เริ่มอยู่ต่อไม่ไหว
สำนักพิมพ์ในอังกฤษจำนวน 98 แห่ง ได้เลิกกิจการไปในช่วงปีที่ผ่านมา คิดเป็น 42% มากกว่าปีก่อนหน้านี้ ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงกำไรที่ลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลมาจากการลดราคาขายปลีกและรูปแบบการทำธุรกิจแบบดิจิตอล
ในบรรดาสำนักพิมพ์ที่ปิดตัวลงไปนั้น มีชื่อของสำนักพิมพ์ Panos London สำนักพิมพ์ที่เน้นหนังสือกลุ่มสุขภาพที่ได้ปิดตัวลงในเดือนเมษายน หลังจากเปิดดำเนินการมากว่า 26 ปี นอกจากสำนักพิมพ์ที่ทำหนังสือแล้วยังรวมถึงสำนักพิมพ์ที่ทำหนังสือพิมพ์ วารสารล่วงเวลาและสมุดรายชื่ออีกด้วยที่ทะยอยปิดตัวลงตาม ๆ กันไป
เหตุผลอย่างหนึ่งว่าทำไมรูปแบบธุรกิจตามเดิมของสำนักพิมพ์ถึงต้องแตกสลาย : การลดราคา การเจริญเติบโตของตลาด ebook และการละเมิดลิขสิทธิ์ดิจิตอล การเติบโตของตลาดหนังสือมือสองและการยกเลิก Net Book Agreement ในปี 1997
การเติบโตของอินเตอร์เน็ตได้เร่งพลวัตที่เป็นการเริ่มต้นจุดสิ้นสุดของ Net Book Agreement (ข้อตกลงในการตรึงราคาชายหนังสือระหว่างสำนักพิมพ์กับผู้ขายปลีกในอังกฤษ หากมีผู้ค้าปลีกคนไหนขายหนังสือต่ำกว่าราคาที่กำหนดไว้ก็จะถูกยกเลิกการจัดส่งหนังสือจากสำนักพิมพ์) รวมทั้งการเกิดขึ้นของ Amazon และผู้ขายรายอื่นที่พากันลดราคาก่อให้เกิดพลังการซื้ออย่างมหาศาล กลายว่าเป็นแรงกดตันต่อกำไรของสำนักพิมพ์เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่บางสำนักพิมพ์อาจจะยังสามารถยืนระยะโดยอาศัยกำไรเล็กน้อยจากหนังสือขายดี แต่มันยากมากกว่าเดิมสำหรับสำหรับสำนักพิมพ์ที่เน้นเนื้อหาหรือหนังสือเฉพาะกลุ่ม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสำนักพิมพ์ที่เน้นหนังสือเรียนและหนังสือทางการศึกษาซึ่งจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากที่สุด เนื่องจากรูปแบบของสำนักพิมพ์เหล่านี้ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ทางดิจิตอลได้อย่างง่ายดายรวมทั้งการขายหนังสือมือสองออนไลน์ในเว็บไซต์อย่าง Amazon.com”
เมื่อ Amazon เกิดขึ้นก็ได้เปลี่ยนรูปแบบของการขายหนังสือออนไลน์จากที่มีผลกระทบเพียงแค่เล็กน้อยกลับกลายเป็นส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ที่ซึ่งครั้งหนึ่งคุณได้ใช้เวลางมหาหนังสือที่ต้องการครึ่งค่อนวันจากร้านหนังสือมือสองหลาย ๆ ที่ แต่ในปัจจุบันคุณสามารถหาหนังสือมือสองดังกล่าวที่ต้องการได้เพียงแค่คลิ๊กปุ่มไม่กี่ปุ่มและหนังสือส่วนนี้ก็ไม่ได้สร้างรายได้ให้กับสำนักพิมพ์สักบาท
ยอดขาย ebook ที่เติบโตขึ้น ซึ่งราคา ebook โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3 ปอนด์หรือต่ำกว่านั้น เทียบกับหนังสือปกอ่อนที่ราคา 5.50 ปอนด์ ยังกัดกร่อนกำไรของสำนักพิมพ์อีกด้วย ยอดขายหนังสือ ebook ในอังกฤษเพิ่มขึ้น 134% มูลค่ารวมอยู่ที่ 216 ล้านปอนด์ ในปี 2012 ในขณะที่ยอดขายหนังสือตัวเล่มลดลง 1% มาอยู่ที่ 2.9 ล้านปอนด์ หมายความว่ายอดขาย ebook ในปัจจุบันคิดเป็น 7.4% ของยอดขาของสำนักพิมพ์โดยรวม ตามรายงานของสมาคมสำนักพิมพ์อังกฤษ และ Amazon ครองส่วนแบ่งการตลาด ebook ในอังกฤษอยู่ที่ 79% ตามรายงานของ Ofcom
ในเดือนกันยายน Jonathan Franzen นักเขียนนวนิยายขายดี ได้เขียนบทความโจมตี Amazon ว่า “Amazon ทำได้กลยุทธ์ทางธุรกิจที่โหดร้ายและส่ิงนั้นได้ส่งผลเสียต่อวัฒนธรรมวรรณกรรมดังเช่นที่เราเห็น Amazon ต้องการให้โลกนี้มีเพียงหนังสือที่ผู้เขียนพิมพ์เผยแพร่ด้วยตนเองหรือไม่ก็เป็นหนังสือที่พิมพ์โดย Amazon เองเท่านั้น ทำให้ผู้อ่านต้องอิงกับ Amazon และเลือกแต่หนังสือที่ Amazon ได้นำเสนอ”