เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Microsoft ได้ตกลงซื้อกิจการของ Skype ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ต โดยใช้เงินกว่าแปดพันห้าร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ
ก่อนหน้าที่ Skype จะกลายมาเป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของ Microsoft นั้นถูกครอบครองโดย กองทุนรวม Silver Lake โดยมี Tony Bates เป็นซีอีโอ
Microsoft มีแผนที่จะรวมเอาจุดเด่นของ Skype ที่สามารถพูดคุยและเห็นหน้ากันแบบทันทีนั้นเข้ากับสายการผลิตสินค้าของตน รวมถึง Microsoft Office Windows Phone และระบบเกมส์ของ Xbox
การซื้อกิจการครั้งนี้สื่อเป็นนัยถึงการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์และเป็นการใช้เงินมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ซึ่งไม่เคยซื้อกิจการอื่นเลยมาตั้งแต่ปี 2006
Steve Ballmer ซีอีโอของ Microsoft กล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Microsoft และ Skype ตลอดจนกระทั่งธุรกิจอื่น ๆ และผู้บริโภคทั่วโลก เป้าหมายของเราก็คือ ให้พลังแก่คนทั่วทั้งโลกด้วยเทคโนโลยีที่จะนำพวกเขามาอยู่รวมกัน”
Skype จัดว่าเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงธุรกิจสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต มีผู้สมัครสมาชิกเข้าใช้ในแต่ละวันกว่า 600,000 ราย มียอดรายรับในปีที่ผ่านมาโตกว่า 40% มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ Luxembourg
โดยในปีทีี่ผ่านมาได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นเป็นครั้งแรกให้แก่ผู้สนใจ คิดเป็นมูลค่าราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่การเสนอขายจริงถูกเลื่อนออกไปและุด้วยข่าวลือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าบริษัทกำลังเจรจาอยู่กับ Microsoft และ Facebook
Bates ซีอีโอของ Skype บอกว่า “เราอยู่ในสถานที่สุดพิเศษสำหรับสายธุรกิจนี้่” ย้ำคำกล่าวของเขาได้จากสถิติผู้ใช้งาน 100 ล้านคนที่ใช้งานเฉลี่ย 100 นาทีในแต่ละเดือน
เขาบอกว่าบริษัทมีกำไร แต่ในปี 2010 Skype ได้รายงานว่าบริษัทมีรายได้ลดลงไป 6.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีรายรับรวมอยู่ที่ 860 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยบริษัทมีหนี้เงินกู้ระยะยาวจำนวน 686 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีหนี้สินเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เล็กน้อย
ภายใต้ข้อตกลงการซื้อกิจการ Microsoft จะเป็นผู้รับภาระหนี้สินของ Skype
Christopher Hickey นักวิเคราะห์จาก Atlantic Equities บอกว่า “ราคาค่อนข้างแพงเล็กน้อย มันแพง แต่มันก็ไม่ถึงกับตายเสียเมื่อไหร่”
ในส่วนของ Baller ซีอีโอของ Microsoft กล่าวว่า บริษัทตัดสินใจใช้เงินซื้อกิจการนี้จากเงินสำรองต่างประเทศเนื่องจาก Skype ตั้งอยู่ในยุโรป
ติดต่อ Herothailand.com ผ่านทาง Skype ได้ที่ skype : herothailand
ข้อมูลจาก : cnn.com