Tag: การอ่าน

สมองต้องการอ่านทุกวัน

ต่างจากการที่เราเข้าเรียนไปฟังเลคเชอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เต็มไปด้วยข้อเท็จจริง มีย่อหน้าที่สำคัญเรียงลำดับหนึ่ง สอง สาม สี่ เต็มไปหมด ซึ่งสมองของเราจะทำงานแต่ในส่วนของภาษาเพื่อทำการแปลและเรียงร้อยแต่ละคำให้ออกมาเป็นความหมาย แต่ถ้าหากเราได้ฟังเรื่องราวบางอย่างที่น่าสนใจ ไม่เพียงแต่ในส่วนของการถอดรหัสภาษา แต่สมองเรายังถูกกระตุ้นอีกหลายส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวนั้น ๆ  แตกกิ่งก้านออกไปหลายมิติ

เช่น ถ้าหากเราได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับการวิ่งของใครคนหนึ่ง สมองส่วน motor cortex ก็จะทำงาน เนื่องจากมันทำหน้าที่สั่งการให้เกิดการเคลื่อนไหวที่อยู่ภายใต้อำนาจของจิตใจที่เกี่ยวกับการวิ่ง และมันง่ายกว่าที่จะจำเรื่องราวมากกว่าข้อเท็จจริงพื้น ๆ ข้อหนึ่ง ข้อสอง ข้อสามที่ไม่มีอะไรตื่นเต้น เพราะว่ามันทำให้เราเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ 

นักวิจัยที่  Emory University ค้นพบว่าไม่มีอาหารอะไรที่วิเศษต่อสมองมากไปกว่าหนังสืออีกแล้ว พวกเขาได้ให้กลุ่มทดลองอ่านหนังสือนวนิยายจำนวน 30 หน้า และหลังจากนั้นก็ทำการ fMRI brain scan เป็นระยะเวลา 5 วันติดต่อกัน ผลที่ออกมาพบว่า ผู้ทดลองแสดงให้เห็นถึงการทำงานของสมองในส่วน Temporal cortex มากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ช่วยควบคุมการรับรู้ต่อภาษาของเรา นอกจากนี้แล้วยังพบว่าสมองส่วน central sulci ก็มีการทำงานเพิ่มขึ้นด้วย

ชาวกัมพูชากับนิสัยรักการอ่าน

"ก่อนยุคเขมรแดง ผู้คนอ่านหนังสือกันค่อนข้างมาก มีการเขียนหนังสือและมีห้องสมุดท้องถิ่น แต่แล้ววัฒนธรรมการอ่านก็ถูกทำลายลงในช่วงเขมรแดงเรืองอำนาจ หนังสือต่าง ๆ ก็ถูกทำลายลงด้วย หนังสือถูกนำไปทำบุหรี่ ครูบาอาจารย์ นักเขียน ก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย เหมือนกับเวลาในช่วงนั้นถูกทำลายไป การขาดหายไปของช่วงเวลาดังกล่าวจึงส่งผลกระทบต่อการถ่ายทอดความรู้ในครอบครัวและสังคม" ในปัจจุบันสิ่งที่เหมือนกันทั้งโลกคือ หนังสือและการอ่านต้องแข่งขันช่วงชิงเวลากับ รายการโทรทัศน์ รายการวิทยุรวมทั้งอินเตอร์เน็ตที่เป็นแหล่งบันเทิงทางเลือก

ความสำคัญของการอ่าน

ในโลกสมัยใหม่การอ่านเป็นกิจกรรมที่จำเป็นเช่นเดียวกันกับการกินหรือการมีความรัก และต้องยอมรับว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การอ่านเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพียงไม่กี่อย่างที่ เพิ่ม เจาะลึกและขยายความคิดของคนเรา มันเป็นขบวนการที่บางครั้งก็รู้ตัวและบางครั้งก็ไม่รู้ตัว การอ่านมีความเป็นส่วนตัวและสันโดษแต่บางขณะก็มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นหรือกับสังคมไปด้วย ถ้อยคำที่ถูกเขียนไปแล้วนั้นสามารถก่อให้เกิดนัยยะใหม่ทุกครั้งที่อ่าน ไม่มีทางที่คนสองคนจะเข้าใจภาษาในความหมายที่ตรงกันเสียทีเดียว ต่อให้เป็นคำเดียวสั้น ๆ อย่างการยืนยันด้วยคำว่า ใช่ หรือ ไม่ อาจจะมีความหมายที่ต่างกันได้มากมาย

จะอ่านหนังสือให้มากขึ้นได้อย่างไร

สำหรับการอ่านหนังสือให้ได้จำนวนมากนั้น ต้องเริ่มต้นจากการมองเห็นว่าการอ่านเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่คุณทำเช่นเดียวกันกับการกินอาหารและการหายใจตามธรรมชาติ ไม่ใช่ทำเพียงเพราะว่าคุณชอบอ่าน การอ่านโดยพื้นฐานแล้วเป็นการสะท้อนตัวคุณออกมา พกหนังสือติดตัวไปด้วยตลอดเวลา ทุกครั้งที่คุณมีเวลาสักวินาทีให้เปิดอ่านมัน อย่าติดตั้งเกมส์บนมือถือ เพราะนี่เป็นเวลาที่คุณสามารถอ่านได้ เวลาที่คุณอยู่บนรถไฟ ในห้องรับแขก ที่ทำงาน จงอ่านมัน มันได้ผล เป็นกิจกรรมที่สำคัญจริง ๆ อย่าปล่อยให้ใครก็ตามทำให้คุณรู้สึกว่ามันไม่ใช่

ทักษะการอ่านหนังสือบนหน้าจอกับหน้ากระดาษ

เป็นครั้งแรกที่พบว่าเด็ก ๆ กำลังใช้เวลาอ่านหนังสือบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่าที่พวกเขาเคยใช้ไปกับหน้ากระดาษหนังสือ นิตยสารหรือหนังสือพิมพ์หรือแม้กระทั่งการ์ตูน ซึ่งเป็นส่ิงที่ส่งผลกับระดับทักษะการอ่านของเด็ก

การอ่าน e-book ถือว่าเป็นการอ่านได้หรือไม่ ?

ท่ามกลางการถกเถียงที่ดูเหมือนจะไม่มีข้อยุติเกี่ยวกับอนาคตของการอ่าน แต่ก็มีประเด็นที่น่าขบคิดอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ การอ่านไม่ได้เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสมองของเราเพียงเท่านั้น มันยังเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยร่างกายของเราอีกด้วย การอ่านถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในชีวิต เราจะถือวัสดุสำหรับอ่านอย่างไร เราจะอ่านมันยังไง พลิกไปแต่ละหน้าอย่างไร เขียนโน๊ตย่อในบรรทัดที่สนใจอย่างไร แล้วแบ่งปันเนื้อหาเหล่านั้นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานผ่านประวัติศาสตร์ของการอ่านและอย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่า ในอนาคตเราก็ยังต้องทำแบบเดียวกับที่ประวัติศาสตร์ได้สอนเรามา
Advertismentspot_img

Most Popular