มีร้านหนังสือขนาดเล็กบางแห่งบอกว่าพวกเขาได้รับโทรศัพท์ที่ปลายสายอ้างว่าเป็นพนักงานของ Amazon สอบถามว่า พวกเขาสนใจที่จะขาย Kindle ไหม ? !! หากพิจารณาถึงความเกลียดชังที่ร้านหนังสือมีต่อ Amazon แล้ว มันดูเป็นความคิดที่แปลก และทาง Amazon เองก้ไม่ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ แต่ร้านหนังสืออิสระจำนวนหยิบมือนี้ได้รายงานว่าพวกเขาได้รับโทรศัพท์จากใครสักคนที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของ Amazon โดยพนักงานของร้านหนังสือกล่าวว่า ปลายสายสอบถามพวกเขาว่าสนใจที่จะร่วมมือกับ Amazon ในการขายเครื่องอ่าน ebook Kindle ไหม ?

ตัวเลขล่าสุด ยอดขาย ebook ได้เข้าสู่ระดับคงที่ ช่วงระหว่าง 20% ถึง 25% ของตลาดหนังสือ การปิดตัวลงของร้านหนังสือยักษ์ใหญ่อย่าง Borders ในปี 2011 เป็นสัญญาณเตือนถึงหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ผลที่ตามมากลับกลายเป็นว่าได้เพิ่มยอดขายให้กับร้านหนังสือขนาดเล็ก และในขณะที่ร้านหนังสืออิสระที่อาศัยกำไรเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับยอดขายของยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Barnes and Noble กลับมีบทบาทสำคัญว่าสำคัญว่าเป็นสิ่งที่นำผู้อ่านไปยังตัวหนังสือและนักเขียน

สำนักพิพม์ขนาดเล็กสามแห่ง ได้ฟ้องร้อง Amazon และสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ทั้งหกแห่ง โดยกล่าวหาว่าร่วมกันให้สิทธิการจัดการดิจิตอล (DRM) แก่ Amazon เพื่อให้ใช้เป็นเครื่องมือการจัดการ ebook ในการสร้างตลาดผูกขาด โดยตัวแทนที่ยื่นฟ้องแทนสำนักพิมพ์ขนาดเล็กทั้งสามแห่งนี้คือสำนักงานกฏหมาย Los Angeles antitrust firm Blecher & Collins กล่าวว่า "การทำสัญญาของสำนักพิมพ์โดยใช้สิทธิการจัดการดิจิตอลด้วยการเข้ารหัส (DRM) เพื่อป้องกันการคัดลอก ebook หรืออ่าน ebook ด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตนั้น ถือว่าเป็นการฉุดยอดขาย ebook โดยรวมและนั่นหมายความว่า Amazon ได้ทำการทุ่มตลาดหรือพยายามที่จะทำตลาด ebook ให้มีแต่ผู้ขายรายเดียวในสหรัฐฯ"

การตัดสินใจของสำนักพิมพ์ Tor Books ที่จะเลิกใช้ การจัดการสิทธิดิจิตอล DRM ( DIgital Rights Management ) นั้นเป็นการส่งสัญญาณว่าได้เริ่มต้นจุดสิ้นสุดสงครามรูปแบบที่หลากหลายของ e-book เมื่อปลายเดือนเมษายน Tor Books สำนักพิมพ์นวนิยายวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งบริษัทลูกอย่าง Tor UK ที่มีสำนักงานในอังกฤษ ได้ประกาศว่า ทางสำนักพิมพ์จะเลิกใช้ Digital Rights Management (DRM ) กับ e-book ของทางสำนักพิมพ์ทุกเล่มในฤดูร้อนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ธุรกิจส่ิงพิมพ์ นี่เป็นการเริ่มต้นจุดจบสำหรับ DRM ซึ่งผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และสำนักพิมพ์ใช้มันเพื่อจำกัดการใช้เนื้อหาดิจิตอลของพวกเขาภายหลังการขาย ถือว่าเป็นข่าวดี ไม่ว่าคุณจะเป็นสำนักพิมพ์ นักเขียน หรือนักอ่าน หรือใครสักคนที่หยิบหนังสือมาอ่านเพียงปีละครั้ง

ห้องสมุดก็เหมือนเช่นเดียวกันกับผู้อ่านคนอื่น ๆ ที่ควรจะมีอิสระในการซื้อเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักพิมพ์ใดก็ได้ในราคาตลาด เพื่อให้สามารถเก็บรักษาเนื้อหาเหล่านี้ไว้ในห้องสมุดและให้บริการยืมแก่สมาชิกได้ ไม่มีอะไรที่ผิดหลักการพื้นฐานของประชาธิปไตยแม้แต่น้อย ห้องสมุดและสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของโลกทั้งหกแห่งกำลังมีข้อขัดแย้งเรื่อง ebook กัน ปัญหานี้จะมีมูลค่าเท่าไหร่ แล้วห้องสมุดจะสามารถให้ยืมและเป็นเจ้าของ ebook เหล่านี้ได้หรือไม่ ถ้าหากคุณไม่ได้ใช้บริการห้องสมุดสาธารณะและเชื่อว่าสิ่งนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับคุณ คุณคิดผิด !!!