ตามรายงานของ Ingram Content Group ได้พูดถึงแนวโน้มที่ส่งผลต่อ
อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ในปี 2022 มากที่สุด
ทั้งจากภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนค่าขนส่งและต้นทุนการพิมพ์ที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทานของสิ่งพิมพ์รวมทั้งการที่ผู้อ่านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาเป็นซื้อหนังสือออนไลน์และบริโภคเนื้อหาดิจิตอลกันมากขึ้นทุกทีโดยราคากระดาษได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10%-12% และมีแนวโน้มว่ายังจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในปี 2022 นี้ โดยปริมาณกระดาษที่ป้อนเข้าสู่ระบบจะยังค่อนข้างจำกัดเนื่องจากโรงงานกระดาษอยู่ระหว่างปิดปรับปรุงยาวมาตั้งแต่ปีที่แล้วหนึ่งโรงงาน ส่วนโรงงานที่เหลือก็หันมาผลิตกล่องกระดาษแทนเพื่อตอบรับกับความต้องการกล่องกระดาษเพื่อใช้ในการบรรจุสินค้าขายออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น
ตลาดหนังสือ 2022 ยังคาดเดาไม่ได้
และเมื่อพูดถึงขั้นตอนการขนส่ง ค่าขนส่งต่อตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้น 50%-70% ไม่ว่าจะด้วยปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ที่ขาดแคลนและจำนวนเที่ยวเรือ โดยระยะเวลาขนส่งจากจีนมายังสหรัฐฯ ใช้เวลา 16 สัปดาห์และการขนส่งจากสหรัฐฯ ไปอังกฤษ ใช้เวลาถึง 10 วัน
ส่วนในสหรัฐฯ เอง การจัดส่งสินค้าล่าช้านั้นเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว

เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว สำนักพิมพ์จึงต้องหันมาพิมพ์ในสหรัฐฯ ให้มากขึ้นและลดจำนวนเล่มที่พิมพ์ต่อครั้งลง แต่ก็ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขเนื่องจากจากความสามารถในการพิมพ์ในสหรัฐฯ นั้นยังคงทำได้จำกัด สำนักพิมพ์จำเป็นต้องแข่งกันหาโรงพิมพ์ ซึ่งบางโรงพิมพ์มีคิวงานเต็มแล้วสำหรับปี 2022 แล้วในทุกวันนี้ สำนักพิมพ์ต่างก็ต้องพิมพ์หนังสือเพื่อขายไม่ได้พิมพ์เพื่อมาสต็อกเหมือนแต่ก่อนแล้ว
ด้วยเหตุและผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้สำนักพิมพ์จำเป็นที่จะต้องขึ้นราคาหนังสือ และแน่นอนว่าในช่วงที่มีการระบาดของโควิด ก็เป็นตัวปรับพฤติกรรมให้ผู้คนหันไปเลือกซื้อสินค้าออนไลน์กันเพิ่มขึ้น หนังสือเองก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่ผู้คนหันมาเลือกซื้อออนไลน์กันมากขึ้น จากการสำรวจพบว่าหนังสือเป็นหมวดหมู่สินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 19 นำหน้าหมวดหมู่แฟชั่นแอนด์ไลฟ์สไตล์ที่ตามมาในอันดับที่ 20
หากเทียบกับปีก่อน ยอดขายหนังสือทุกประเภทในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 9% ส่วนในอังกฤษเพิ่มขึ้น 5% ซึ่งในภาพรวมแล้วถือเป็นสิ่งที่ดี
หากดูที่ส่วนแบ่งการตลาด มีผู้คนจำนวน 61% ที่ซื้อหนังสือทั้งที่ร้านหนังสือและซื้อออนไลน์ ในขณะที่ 26% ซื้อหนังสือออนไลน์เพียงอย่างเดียวและ 13% เดินไปซื้อหนังสือที่ร้านหนังสือเพียงอย่างเดียว
และหากดูที่ยอดขายออนไลน์ ยอดขาย e-book ในปี 2021 เทียบกับปี 2020 แล้ว ลดลงมา 5% แต่ยังสูงกว่าปี 2019 อยู่ 6%
และจากการสำรวจของ PEW ในปี 2021 ผู้อ่านจำนวน 30% อ่าน e-book 23% เลือกฟัง audiobook และ 65% อ่านหนังสือตัวเล่ม
สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือ ในช่วงสองปีให้หลังมานี้ รายการหนังสือเก่าขายได้มากกว่าหนังสือออกใหม่ในอัตราส่วน 2:1 ส่วนหนึ่งมาจากอิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ที่สร้างความนิยมต่อหนังสือเก่าในชั่วข้ามคืน ซึ่งตรงนี้ทำให้สำนักพิมพ์ต้องเตรียมการและวางแผนในการจัดการกับความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างทันทีทันใดให้เกิดประโยชน์สูงสุด