admin

Advertismentspot_img

รีไซเคิลอย่างไร ขยะพลาสติกถึงไม่ลด

สถิติเมื่อไม่กีปีมานี้พบว่าเพียงแค่ระยะเวลาไม่ถึง 30 นาที น้ำอัดลมรายใหญ่ของโลกที่บรรจุขวดพลาสติกก็มียอดขายทั่วโลกรวมกันไปแล้วกว่า 13 ล้านขวด !! ในขณะที่สายพานการผลิตภายน้ำอัดลมบรรจุขวดพลาสติกจากโรงงานเพียงแห่งเดียวที่กำลังเดินเครื่องมาแล้วสองชั่วโมงครึ่งผลิตไปแล้วจำนวน 86,340 ขวด ซึ่งหมายถึงกำลังการผลิตตีเป็นตัวเลขคร่าว ๆ ก็คือ 10 ขวดต่อวินาที! และนี่เป็นเพียงแค่จากสายพานการผลิตเพียงสายการผลิตเดียวจากโรงงานเพียงแห่งเดียวและในประเทศเดียวเพียงเท่านั้น !!! แล้วหากคิดรวมกันทั้งโลกจะมหาศาลขนาดไหนกัน เมื่อมีขวดพลาสติกใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ขวดพลาสติกที่ใช้แล้วกลายเป็นขยะถูกทิ้งขว้างก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จากนั้นเมื่อขยะพลาสติกเพิ่มทวีคูณมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนก็เริ่มคิดถึงการรีไซเคิล เพราะหวังว่าการรีไซเคิลจะเป็นทางออกของปัญหาทุกอย่าง

เกาะขยะ Great Pacific Garbage Patch

ในปี 1988 ได้มีการค้นพบสิ่งมหัศจรรย์(ในทางไม่ดี)ของโลก นั่นก็คือ Great Pacific Garbage Patch (GPGP) หรือแพขยะขนาดใหญ่ ซึ่งจนถึงตอนนี้แพขยะที่ว่า ได้กลายเป็นเกาะขยะแล้ว เนื่องจากกินพื้นที่ราว 1.6 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่เกือบสองเท่าของรัฐเท็กซัส หรือใหญ่เป็น 3 เท่าของประเทศฝรั่งเศส มีขยะโดยเฉพาะพวกพลาสติกลอยเกาะกลุ่มกันกว่า 1.8 ล้านล้านชิ้น!! มากกว่าดวงดาวในกาแล็กซี่ทางช้างเผือกถึง 10 เท่า และที่มหัศจรรย์ว้าวกว่าเดิมคือ มันไม่ได้มีแพขยะหรือเกาะขยะแบบนี้แค่เพียงแห่งเดียว แต่มีทั้งหมด 5 แห่ง กระจายอยู่ในมหาสมุทรทั่วโลก !! ท่ามกลางกองขยะกลางทะเลเหล่านี้ครึ่งหนึ่งของขยะได้แก่พวกเศษอวน เอ็นเบ็ดตกปลา ซึ่งก็มาจากอุตสาหกรรมประมงที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ส่วนอีกครึ่งที่เหลือก็จะเป็นพวกพลาสติกอย่างขวดน้ำ ถุงพลาสติกประเภทต่าง ๆ ขยะจากบนบกมันไปอยู่กลางทะเลลึกไกล ๆ แบบนั้นได้อย่างไรกัน ? แถมเยอะด้วย ไม่ใช่แค่ขวดลอยน้ำชิ้นสองชิ้น หรือว่ามีเรือเก็บขยะขนมันไปเททิ้งกลางทะเลหรือเปล่า ?

อุณหภูมิส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยหรือ (3/3)

ไม่มีตัวอย่างไหนจะทำให้เห็นภาพได้ดีเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นในยุโรป ซึ่งชาวยุโรปนั้นโชคดีมากพอที่มีทรัพยากรธรรมชาติมากมายรวมทั้งสภาพแวดล้อมก็เอื้ออำนวยต่อการส่งเสริมความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีบางอย่างที่ทำให้พวกเขาก้าวขี้นมาสู่ความมั่งคั่งและขยายอิทธิพลก่อนใครตั้งแต่ยุคแรก ๆ ซึ่งในที่สุดแล้วความก้าวหน้าดังกล่าวก็ได้นำให้ประเทศในแถบยุโรปสามารถล่าอาณานิคมไปได้ทั่วโลก นักล่าอาณานิคมชาวยุโรปจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลหรือมอบอำนาจให้ผู้ปกครองที่พวกเขาเลือกขึ้นมา ปล้นดินแดนที่เต็มไปด้วยทรัพยากร แล้วเมื่อไม่ต้องการมันอีกต่อไป ก็ทิ้งประเทศดังกล่าวให้อยู่ในความโกลาหล ภาวะสุญญากาศทางอำนาจซึ่งในท้ายที่สุดก็มักจะจบลงด้วยการขึ้นมาครองอำนาจของผู้นำทรราชย์ และไม่แปลกใจเลยที่จะตามมาด้วยประเทศต่าง ๆ ในเขตร้อนที่เคยตกเป็นอาณานิคมจะมีการต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อหาจุดสมดุลที่มีเสถียรภาพหลังจากที่ได้กลายเป็นประเทศเอกราชแล้ว ซึ่งการที่ปราศจากรัฐบาลที่มีเสถียรภาพแล้วเศรษฐกิจก็ไม่อาจเติบโตได้

อุณหภูมิส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยหรือ (2/3)

มนุษย์ทุกคนล้วนมีศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมและการเติบโต กลุ่มประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตหนาวไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบันก็ไม่ได้ถือว่าพวกเขามีความฉลาด แข็งแรงหรือมีทรัพยากรมากว่าคนในแถบร้อน ไม่ว่าจะวัดด้วยมาตรฐานไหนก็ตาม  มีหลายเหตุผลที่ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปกลายมาเป็นประเทศมหาอำนาจและล่าอาณานิคมได้มากมายด้วยอาศัยสองสิ่งต่อไปนี้ นั่นก็คือ ประการแรกทรัพยกรธรรมชาติที่พวกเขามีและอย่างที่สองคือการที่ต้องดิ้นรน ตัวอย่างเช่น หลักการคำนวนทางคณิตศาสตร์มากมายที่เราใช้กันทุกวันนี้ก็มาจากพื้นที่เขตร้อนที่สุดในตะวันออกกลาง ส่วนดินปืนที่ทำให้ชาวยุโรปสามารถทำลายล้างวัฒนธรรมของคนท้องถิ่นนั้นก็มาจากจีน ผลผลิตทางการเกษตรอย่างข้าวโพด มันฝรั่งและช็อคโกแลตนั้นพื้นเพต่างก็เริ่มต้นมาจากอเมริกาใต้ แต่หลังจากที่ทรัพยากรเหล่านี้ พืชพันธุ์เหล่านี้ถูกนำไปเพาะปลูกในยุโรปและเจริญเติบโตได้ดีเป็นเวลานานหลายศตรรษ ความเปลี่ยนแปลงก็เริ่มเห็นผล

อุณหภูมิส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยหรือ (1/3)

นักวิจัยที่ MIT ได้ทำการศึกษาลงลึกไปอีกขั้นด้วยการศึกษาถึงประเด็นที่ว่าอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นในแต่ละปีนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้หรือไม่ ซึ่งผลการศึกษาพบว่าในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยเพียง 1 องศาเซลเซียสมีความเกี่ยวข้องกับการส่งผลให้ GDP ต่อหัวลดลง 1.1% ดังนั้นแล้วหากมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นฉับพลันก็อาจส่งผลเสียที่ร้ายแรงต่อเศรษฐกิจได้ เมื่อลองสืบค้นไปในอดีตก็พบว่ามีบางอย่างที่น่าประหลาดใจ สิ่งที่อดีตต่างจากปัจจุบันก็คือ ประเทศมหาอำนาจและมีความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจรวมถึงจักวรรดิต่างๆ ทั่วโลกต่างก็มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตรหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าบริเวณอื่น ๆ ของโลก

ชิป พรมแดนทางด้านเทคโนโลยี

อุตสาหกรรมชิปนั้นมีราคาแพงและยากต่อการแข่งขัน การที่จะสร้างโรงงานแห่งใหม่จะมีต้นทุนสูงถึงสองหมื่นล้านเหรียญฯ ต่อโรงเลยทีเดียว ดังนั้นความพยายามใดก็ตามที่จะเปลี่ยนแปลงภูมิศาสตร์ที่ตั้งของโรงงานผลิตชิปนั้นต้องใช้เงินทุนมหาศาล คำถามก็คือ มันคุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่ ? ชิปนั้นเป็นหัวใจของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ที่อาศัยการประมวลผลมาตั้งแต่ต้น ที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์เราไม่เคยเจอปัญหาการขาดแคลนชิปอย่างรุนแรง และไม่เคยคิดว่าการขาดแคลนชิปเป็นปัญหา แต่ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว....ตั้งแต่ที่การระบาดของโควิดได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของชิป โลกเริ่มตั้งคำถามจากการที่ชิปหาย เช่น ชิปคืออะไร ? ชิปทำจากอะไร ? ใครคือผู้ผลิตชิป? ทำไมเราถึงผลิตชิปเองไม่ได้ ?

Ponzi Scheme คืออะไร ?

แทนที่จะนำเงินไปลงทุนในการสร้างความมั่งคั่ง Ponzi Scheme นั้นจะอาศัยการชักชวนให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนให้มากขึ้นเพื่อที่จะได้นำเงินที่ได้ไปจ่ายให้กับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนรอบก่อนหน้านั้น ซึ่งแน่นอนว่านักลงทุนที่หลงเข้ามาใหม่ๆ เหล่านี้ก็จะถูกกล่อมให้เชื่อเช่นกันว่าพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนก้อนใหญ่ในเวลาอันสั้น ขณะเดียวกันระบบนี้จำเป็นจะต้องหาผู้ลงทุนกลุ่มใหม่และใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อจะได้มีเงินหมุนไปจ่ายผู้ลงทุนที่เข้ามารอบก่อนหน้า การลงทุนแบบนี้ก็คือการตักเอาเงินของนักลงทุนรอบใหม่ไปจ่ายให้รอบก่อนหน้า ไม่ได้นำเงินไปลงทุนสร้างความมั่งคั่งหรือลงทุนในหน่วยธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนจริง ๆ ต้องอาศัยการชักชวนให้มีผู้ลงทุนกลุ่มใหม่และใหญ่กว่าเดิมหมุนวนเข้ามาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ระบบยังคงดำเนินต่อไปได้

Fiat Currency เงินกระดาษค้ำด้วยความเชื่อ

Fiat currency คือสกุลเงินที่ไม่มีอะไรค้ำประกันนอกจากคำมั่นสัญญาของรัฐบาล หากผู้คนมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินดังกล่าวบวกกับการที่รัฐบาลมีแรงผลักดันมากเพียงพอที่จะทำให้สกุลเงินดังกล่าวถูกใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจโลกก็จะยังคงความเชื่อมั่นและความนิยมในสกุลเงินดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดังกล่าวแข็งค่าขึ้น แต่หากมีเหตุการณ์ที่ทำให้ความเชื่อมั่นต่อสกุลเงินดังกล่าวถดถอยลง ค่าเงินสกุลดังกล่าวก็จะอ่อนค่าลงเช่นกัน นับตั้งแต่ที่เราออกจากระบบมาตรฐานทองคำ ส่วนใหญ่แล้วรัฐบาลต่าง ๆ ก็มักจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาโดยตลอด ไม่ว่าจะผ่านช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่แย่ แต่ทั้งหมดนี้ก็ดำเนินไปในหลักการงบประมาณขาดดุล การสร้างหนี้ในส่วนของรัฐบาลก็ต้องหาเงินมาจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ย ลองคิดดูว่าว่าในส่วนของดอกเบี้ย เมื่อถึงเวลาที่ต้องชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ย แต่ไม่มีเงินจ่าย ทำอย่างไรทีนี้ พวกเขาก็ต้องกู้เงินรอบใหม่เพื่อมาจ่ายเงินกู้รอบเก่าแล้วต้องมีเหลือสำหรับชำระค่าใช้จ่ายในปัจจุบันอีกบางส่วน เท่ากับว่าต้องกู้เงินก้อนใหญ่ขึ้นซึ่งจะทำให้จมลงไปในกองหนี้ลึกมากขึ้นทุกที

admin

Advertismentspot_img