ทิม เดนนิ่ง ได้บอกเล่าถึงประสบการณ์การกลั้นใจเขียน eBook ของเขา ว่าเขาต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้างกับสิ่งที่เขาอยากทำแต่ไม่ได้ลงมือทำสักที จนในที่สุดก็ฝืนใจเริ่มต้นทำ ….
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการเขียน eBook ในระยะเวลา 30 วัน แล้วขายในราคาเล่มละ 615 บาท
โดยได้แรงบันดาลใจมากจากการเห็นเพื่อนทำเงินไปมากมายจากการขาย ebook
ผมเองมีความตั้งใจมานานแล้วว่าอยากจะเขียน ebook สักเล่มที่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น คิดมาตั้งนานอยู่ในหัวมาตั้งแต่ปี 2014 จนกระทั่งเห็นเพื่อนเขียน eBook ขายซึ่งทำเงินได้มากพอดู เงินจากการขายหนังสือดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา หากแต่กระบวนการในการเขียนหนังสือ ได้สอนบทเรียนที่มีค่าให้มากมายซึ่งต่อมาเขาก็ได้อาศัยถอดบทเรียนเหล่านี้ไปใช้กับอาชีพและงานพูดในที่สาธารณะของเขา
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ที่ผ่านมาการเขียน ebook จึงยังไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ สักครั้งสำหรับผม ดังนั้นในช่วงระหว่างวันหยุด ผมจึงตัดสินใจลองดูสักตั้ง
ทั้งนี้เพื่อความชัดเจน เวลาพูดถึง ebook ผมจะหมายถึง
“หนังสือที่ถูกขายในรูปแบบของไฟล์ pdf ที่สามารถซื้อและดาวน์โหลดได้ผ่านเว็บไซต์ของผู้เขียนเท่านั้น (ไม่ได้ไปฝากขายกับเว็บไซต์อื่น ๆ ) รวมถึงการทำการตลาดกับหนังสือดังกล่าวผ่านอีเมล์ เครือข่ายสังคมออนไลน์และแวดวงผู้คนที่ตัวนักเขียนรู้จัก โดยผู้ซื้อชำระเงินค่าหนังสือผ่านหน้าชำระเงินหรือกดปุ่ม “Pay now” เพื่อเข้าสู่หน้าชำระเงินได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านบุคคลที่สามใด ๆ อีก”
ส่วนสุดท้ายที่ยังคงเหลืออยู่ก็คือ ปกหนังสือ การแก้ไขคำผิด การเขียนเนื้อหาในอีเมล์ที่จะส่งเสริมการขายรวมทั้งหน้าเว็บเพจของหนังสือที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้
ผมได้รับบทเรียนที่คาดไม่ถึงมากมายระหว่างขั้นตอนการเขียนหนังสือที่คิดว่าเป็นประโยชน์ ซึ่งจะได้เล่าดังต่อไปนี้

………
บทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหลังจากการเขียน eBook ก็คือ การที่เราไม่ดูถูกตัวเอง
ผมไม่เคยเชื่ออย่างแท้จริงมาก่อนว่า ผมมีพรสวรรค์ทางด้านการเขียนหนังสือและนั่นมันทำให้ผมปิดโอกาสที่ดีที่สุดของตัวเอง เพราะมัวแต่คิดว่า “ตัวเองไม่เก่ง”
แต่การที่ต้องบังคับตัวเองให้ค้นหาข้อมูลประกอบการเขียนรวมทั้งค้นบันทึกย่อต่าง ๆ ที่เคยทำไว้ นำมารวบรวมปะติดปะต่อกันนั้น ได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างไป มันทำให้ผมเห็นชัดขึ้นว่ามีเทคนิคมากมายรวมทั้งทักษะที่ผมสามารถทำได้ แนวความคิดทั้งหมดที่ครุกรุ่นอยู่ในหัวผมมาตลอด รอวันจะได้แสดงออกทางใดทางหนึ่ง และแล้วก็ถึงเวลาที่ได้ปลดปล่อยมันออกมาในรูปแบบของ eBook
…….
บังคับตัวเองให้อ่านเกี่ยวกับเนื้อหาที่กำลังเขียน
การเขียน eBook ขายนั้น ทำให้ผมต้องอ่านหนังสือและบทความจำนวนมากในหัวข้อที่นอกเหนือไปจากประสบการณ์ตรงส่วนตัวและหาเนื้อหาที่มีคุณค่าเพียงพอที่จะสอดแทรกสาระเข้าไปใน eBook ซึ่งจะว่าไปการค้นคว้าข้อมูลดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่หนักหนาเอาการ แต่การที่จำเป็นต้องทำนั้นได้กรุยทางให้ผมได้พบเจอกับวิธีการที่จะจัดการกับเรื่องนี้
เคล็ดลับก็คือให้ใช้เวลาค้นคว้าหนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อวันแทนที่จะทำครั้งเดียวให้เสร็จโดยใช้เวลาทั้งวันซึ่งนั่นทำให้น่าเบื่อและเมื่อยล้าเอาทีเดียว
……..
มีเรื่องราวมากมายให้ต้องเรียนรู้
ยิ่งผมดูถูกตัวเองมากเท่าไหร่ว่าเรามีทักษะอันน้อยนิดและไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ผมเองก็ได้ค้นพบว่ามีอะไรที่ให้เราต้องเรียนรู้อีกเยอะ มีช่องว่างของความรู้อยู่อีกมากมายเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการอ่าน หัวข้อและศิลปะของการเล่าเรื่องที่ทำให้ผมตื่นตัวกับสิ่งแปลกใหม่ดังกล่าวนี้ในทุก ๆ วัน
มักจะมีคนที่เก่งกว่าเราอยู่เสมอในทุกสาขา และมันเป็นเรื่องที่ดีหากเรานำความรู้ที่ตกผลึกเหล่านี้มารวมกันไว้ใน eBook หรือพยายามต่อยอดทำมันให้เกิดประโยชน์
ต่อจากนั้นก็มาถึงขั้นตอนเรียบเรียงเนื้อหาเข้าด้วยกัน โดยจัดเนื้อหาใจความแบ่งออกเป็นบท
ความงามของการเขียน eBook ก็คือ การมีรูปแบบที่เราต้องดำเนินตาม เริ่มจากเนื้อหาคร่าว ๆ ที่ครอบคลุม ( หัวข้อของหนังสือ) บทต่าง ๆ ที่จะเพิ่มเข้ามาตามกรอบเวลาหรือในระหว่างขั้นตอนการทำงาน อาจจะมีหัวข้อแนะนำแนวคิดใหม่ ๆ และหัวข้อย่อยที่จะชี้ให้เห็นวิธีคิดของเราหรือมุมมองที่ชัดเจนให้กับผู้อ่าน
นอกจากนั้นแล้ว หากเรานึกถึงแนวคิดต่าง ๆ ของผู้คนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เรา ก็อาจจะจบท้ายแต่ละบทด้วยการเขียนข้อความแนวคิดเหล่านั้นซึ่งจะเป็นอะไรที่ลงตัวเอามาก ๆ
…… …… …..
เมื่อเราเขียนบล็อก เราไม่จำเป็นต้องใส่ทุกรายละเอียด ไม่สนใจเรื่องของการนับจำนวนคำ
แต่เมื่อเราเขียน eBook มันมีความแตกต่างหลายประการกับการเขียนบล็อก
eBook เล่มหนึ่งถูกออกแบบให้มีความลึกของเนื้อหามากกว่าการเขียนบล็อก แล้วเมื่อผู้อ่านจ่ายเงิน 615 บาท ที่หามาด้วยหยาดเหงื่อแแรงงานซึ่งกว่าจะหามาได้เลือดตาแทบกระเด็น พวกเขาต่างก็คาดหวังที่จะได้รับรายละเอียดทุก ๆ อย่างและรู้สึกได้ว่าผู้เขียนเองก็มีความพยายามอย่างมากในการเขียน eBook เล่มนี้ออกมา
…… …… …..
ให้มืออาชีพทำหน้าที่ออกแบบปกหนังสือให้เรา
สำหรับการเขียนบล็อกแล้วไม่มีอะไรมากกว่าการหารูปที่อนุญาตให้ใช้ได้ฟรีมาเป็นภาพประกอบ
แต่การเขียน eBook จะต่างออกไป เนื่องจากผู้คนให้ความสนใจกับเนื้อหา ดังนั้นเราต้องปฏิบัติอย่างมีมาตรฐานในการที่จะให้มืออาชีพเป็นคนออกแบบปก
วิธีการที่เร็วที่สุดที่ค้นพบและได้ภาพปกที่ถูกอกถูกใจเป็นอย่างยิ่งก็คือการใช้แพลทฟอร์มของคลาวด์ซอร์ส โดยไปลงประกาศหาผู้ที่สนใจโปรเจ็กต์ของเราส่งปกมาให้เราเลือก นอกจากปกแล้วอาจรวมไปถึงภาพประกอบในหนังสือซึ่งขึ้นอยู่กับการตกลงราคากันตามงบประมาณ
โดยจะใช้งบประมาณราวหนึ่งหมื่นสองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นห้าพันบาท ซึ่งนักออกแบบจากทั่วโลกจะส่งตัวอย่างปกตามโจทย์ที่ได้รับจากเรา inbox เข้ามา เราก็เป็นคนเลือกว่าอันไหนสวยถูกใจ จากนั้นก็ส่งปกที่เราเลือกไปให้เพื่อนๆ หรือครอบครัวให้แสดงความคิดเห็นหรือช่วยเลือกปกก็ได้
หรือสำหรับคนงบน้อย หากมีฝีมือก็อาจทำเองหรือขอร้องเพื่อน ๆ มาช่วยกันทำให้แล้วเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนก็ได้
ตื่นเต้นไปกับแต่ละขั้นตอน
การเขียน eBook เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ความคิดที่พรั่งพรูออกมาเป็นการปลอดปล่อยบางสิ่งบางอย่างให้กับโลกที่เราได้สร้างมันและมองเห็นว่าจะช่วยผู้อื่นให้สมองแล่นฉิวได้อย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่ eBook ต่างจากการเขียนบล็อกทั่ว ๆ ไป
บางทีคุณอาจจะเป็นนักเขียน เขียน eBook จำนวนหนึ่งเล่มต่อปี ในขณะที่คุณอาจจะเขียนโพสต์ได้ในหลักสิบ หลักร้อย หรือหลายร้อยโพสต์ต่อปี
eBook จะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในความทรงจำ โดยที่คุณจะฉลองความสำเร็จของมันอยู่เงียบ ๆ หลังประตูที่ปิดไว้…ในฐานะนักเขียน
หรือหากเปรียบเป็นอย่างอื่น การเขียน eBook เกี่ยวกับอะไรก็ตาม เป็นการนำมาซึ่งความสนุงเข้ามาในชีวิตเราอย่างแท้จริงและเตือนให้เราระลึกถึงความสามารถของเราเองในฐานะการเป็นครู ดาราตลก นักเอนเตอร์เทนหรือนักเขียน
ด้วยการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์หรือการเขียนบล็อก เราสามารถเตรียมข้อมูล เนื้อหาในระยะเวลาชั่วประเดี๋ยวประด๋าว แต่กับการเขียน eBook มันไม่ได้เร็วแบบนั้น ต้องมีการเตรียมเนื้อหาซึ่งเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างเหนื่อยเอาการ คุณต้องใช้ความพยายามอย่างมากราวกับปีนยอดเขาเอเวอร์เรสแล้วก็กรีดร้องออกมาในความเงียบออกมาจากหน้าต่างหรือที่ทำงาน
มันเป็นการเดินทางลึกเข้าไปในความเป็นตัวเราที่ทดสอบความกระตือรือร้น ความท้าท้ายทักษะการเขียนและทำให้เราอยากจะล้มเลิกหลายครั้งหลายครา การที่เราทน ๆ ทำไปในกระบวนการดังกล่าวช่างเป็นความเหนื่อยล้าแต่ในท้ายที่สุดเราก็จะได้รับรางวัลตอบแทน
…..

การทำหน้าโฆษณาหนังสือ
เมื่อเราเขียนหนังสือเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องมองหาที่วางขาย eBook ของเรา เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงหนังสือของเราได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO การลงโฆษณาตามเครือข่ายสังคมออนไลน์ เป็นต้น
นี่เป็นขั้นตอนที่เราต้องพึ่งคนที่มีความรู้ทางด้านเทคนิคมากกว่ารวมถึงคนที่ทำหน้าโฆษณาให้เรานั้นก็ยังสามารถช่วยเราได้ในโปรเจ็กต์อื่น ๆ อีกด้วย และนั่นคือผลลัพธ์ที่มีคุณค่านอกเหนือไปจากการมี eBook ของตัวเองวางขายอยู่บนอินเตอร์เน็ต
การคิดเงินเป็นการย้ำให้คุณตระหนักว่า ตัวคุณเองมีค่า
หลังจากที่ทำหน้าโฆษณาเสร็จ ก็จำเป็นต้องมีปุ่มชำระเงินหรือหน้าตระกร้าสินค้า ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นการไปสมัครกับตัวแทนรับชำระเงินเพื่อให้ได้บัญชีผู้ขายหรือสมัครกับ PayPal ซึ่งก็ทำให้เราวสามารถเก็บเงินค่าหนังสือ eBook ได้ง่ายดาย
eBook สามารถกลายเป็นตัวเร่งให้ตัวเราเองตระหนักว่าที่เราทำมาทั้งหมดนั้นเหมาะกับตัวเรามากน้อยเพียงใด หรือมองเห็นอะไรที่จะต่อยอดออกไปจากนี้เพื่อไปสู่แนวทางของการเป็นผู้ประกอบการ หรืออาจได้ผลลัพธ์อื่นที่มีพลัง การรู้ว่าตัวเราเองมีคุณค่าเป็นบทเรียนที่เราล้วนต้องการในการนึกถึงอยู่เสมอ ๆ
ความไม่แน่นอนที่อยู่รอบ ๆ ผลลัพธ์
ถึงตอนนี้ eBook ก็มีชีวิตแล้ว ผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอนบางประการก็อาจจะเกิดขึ้นตามมาได้หลังจากนั้น อาจจะมีคำถามว่าทุกคนจะแห่กันมาซื้อหนังสือที่เราใช้ทั้งหัวใจและวิญญาณทุ่มเทให้กับมันนี้หรือไม่ ?
ความไม่แน่นอนนี้เป็นสิ่งที่กว้างใหญ่มาก มันไม่ใช่แค่คิดถึงว่าจะขายได้กี่เล่ม มันคือความเสี่ยงทั้งเรื่องของอัตตาและชื่อเสียงของเรา
หนทางเดียวในการที่จะก้าวต่อไปก็คืออย่าไปคิดถึงผลลัพธ์ ขั้นตอนการเขียน eBook ดังที่เราเห็นตัวเองก็เพียงพอแล้ว เราทำดีที่สุดและตอนนี้มันถึงเวลาที่จะขยับไปทำโปรเจ็กต์ต่อไป
โดยสรุปก็คือ
การเขียน eBook เป็นการทำแบบทดสอบการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่
สอนให้เราไม่ดูถูกตัวเอง เรียนรู้ได้มากขึ้นถึงทักษะของเรา วิธีการการทำหน้าโฆษณาและการตั้งราคาสินค้า เห็นพัฒนาการของตัวเองที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคนที่มีความรู้มากกว่าเรา กลายเป็นว่ากระบวนการดังกล่าวช่วยให้เราเข้มแข็ง มีพลังขึ้น ทำให้การจัดการเนื้อหา เรียบเรียงเป็นบทเป็นตอนได้ดีขึ้นและรับมือกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นได้
คนเราแต่ละคนต่างก็มีความถนัดในแต่ละสาขาไม่เหมือนกัน บางทีมันอาจจะถึงเวลาแล้วที่คุณจะลงมือเขียน eBook สักเล่มในหัวข้อที่ต้องการ