การถือกำเนิดขึ้นของ AI ที่สามารถอ่านหนังสือให้เราฟังได้คือ ออกมาเป็น audiobook เลย ถือว่าเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากในขณะนี้ การทำ audiobook โดยใช้ AI อ่านแล้วบันทึกเสียงนั้นทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลงอย่างมากเมื่อเทียบกับการต้องให้คนจริง ๆ อ่านแล้วบันทึกเสียง ซึ่งวิธีการนี้ก็ช่วยสร้างผลกำไรให้กับ audiobook นอกจากนั้นแล้วสำนักพิมพ์ก็ยังสามารถผลิต audiobook ได้มากขึ้นและจำเพาะเจาะจงกับกลุ่มผู้อ่านอีกด้วย ทางด้าน เอมิลี ลอว์เรน หนักแสดงและผู้ให้เสียงประกอบ ผู้ร่วมก่อตั้ง PANA ให้ความเห็นว่า “มันง่ายมากที่จะลดต้นทุนในเรื่องนี้ลงไปหลายดอลลาร์ แต่มันก็ซับซ้อนยิ่งขึ้นและแตกต่างกัน ถ้าหากการใช้ AI อ่านแพร่หลายออกไปยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ผู้ให้คำบรรยายจะตกงาน เพราะในอุตสาหกรรมดังกล่าวนี้ยังมีผู้คนเกี่ยวข้องอีกมากที่เลี้ยงชีพด้วยการทำงานกับ audiobook ไม่ว่าจะเป็นผู้ตรวจสอบการอ่านว่ามีการขาดตกบกพร่องตรงไหนบ้าง ตรงกับต้นฉบับเรียบร้อยดีหรือไม่ คนที่แก้ไขเสียง ตัดต่อเสียง”

โดยหนังสือเสียงที่ว่าเหมาะสำหรับฟังเวลาที่กำลังจะนอนหรืออาจจะเป็นช่วงอ่านหนังสือก่อนนอนอะไรแบบนั้นก็ได้ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ทุกคนต่างก็ต้องการความรู้สึกที่สบายและคุ้นเคยตอนที่พากันง่วงนอน และหนังสือเสียงเหล่านี้ไม่จำเป็นว่าจะต้องฟังตั้งแต่เริ่มแรก จะฟังตอนกลางเรื่องหรือตอนท้ายเรื่องก็ได้เพราะมันเป็นเหมือนเรื่องเล่า เล่าไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องที่ใครคนใดคนหนึ่งกำลังบอกกับเรา ไม่มีเนื้อหาส่วนไหนที่จะปลุกให้เราตื่นจากภวังค์

เมื่อก่อนนี้เราต่างพากันรู้สึกว่าการฟังหนังสือเสียงเป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะไม่ใช่การอ่านเพราะมันดูเหมือนว่าไม่ได้อ่านหนังสือจริงๆ แต่ความรู้สึกดังกล่าวก็ค่อยๆ เลือนหายไปในไม่กี่ปีที่ผ่านมาและในความเป็นจริงมีผลการวิจัยที่ระบุว่า สมองของคนเราจะทำงานเมื่อกำลังฟังหนังสือเสียงแบบเดียวกับที่ตอนเราอ่านหนังสือ