บทความชิ้นนี้อ้างอิงจากงานเขียนของ Nick Bilton
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนที่ผมเดินทางไปนิวยอร์กเพื่อทำงานช่วงสั้น ๆ ด้วยนั้น ผมกำลังคิดว่าผมอยากสัมผัสหนังสือมากเหลือเกิน
ผมออกเดินตระเวณไปทั่วเมืองโดยไม่มีจุดหมาย จนมาถึงร้านหนังสือเล็ก ๆ และดูค่อนข้างเก่าแห่งหนึ่งที่อยู่บน cobbled streets
ผมหยุดกึกตรงหน้าร้าน มองผ่านกระจกหน้าร้านเข้าไปยังหนังสือจำนวนมากในร้าน และสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นทันทีก็คือว่า ผมไม่ได้เข้าร้านหนังสือมาหลายเดือนแล้ว ทั้ง ๆ ที่ ผมซื้อหนังสือออนไลน์ผ่านร้านหนังสือดิจิตอลและอ่านงานเขียนเหล่านั้นด้วย Kindle หรือไม่ก็ iPad
…..
ดังนั้นผมจึงไม่รีรอที่จะผลักบานประตูไม้ขนาดใหญ่เข้าไปข้างในร้าน ประตูบานใหญ่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดราวกับยืมมาจากฉากในหนังสยองขวัญ เมื่อประตูปิดลง กระดิ่งตรงเพดานก็ดังขึ้น ทันใดนั้นเด็กผู้หญิงที่อยู่หลังเคาเตอร์ก็มองมาที่ผม ย้ิมให้เล็กน้อยแล้วก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือของเธอต่อไป ลูกค้าสองสามคนในร้านก็ยังคงเลือกดูหนังสืออย่างเงียบ ๆ
ข้างในร้านมีชั้นหนังสืออยู่เต็มไปหมด บางชั้นก็หนา บางชั้นบาง บางชั้นก็ใหญ่บางชั้นเล็ก ผมรู้สึกได้ทันทีถึงวันคืนเก่า ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว สัมผัสของหนังสือที่จับต้องได้ กระดาษ กลิ่นหมึก กลิ่นกาว ร่ายเวทย์มนต์ย้อนความทรงจำไปถึงในช่วงฤดูร้อนตอนที่นอนอ่านหนังสือริมชายหาด บ่ายของวันหนึ่งในร้านกาแฟ หรือบนเก้าอี้หน้าเตาผิงขณะที่เม็ดฝนโปรยปรายอยู่นอกบานหน้าต่าง
เมื่อเทียบกับ iPad และ Kindle แล้ว ไม่สามารถให้กลิ่นอายแบบนี้ได้เลย
…. … … … …
สำหรับใครก็ตามที่ได้เปลี่ยนไปใช้เครื่องอ่าน e-book ประสบการณ์การเลือกซื้อ e-book ซึ่งเกิดขึ้นได้แบบทันที เป็นสิ่งที่ทำให้สะเทือนอารมณ์ ว่าไปแล้วก็เหมือนตอนไปเที่ยวหาครอบครัวของแพทย์ผู้ชำนาญการ ซึ่งที่นั่นไม่มีเสียงประตูเอียดอ๊าด หรือกระดิ่งที่บอกให้รู้ว่ามีผู้มาเยือนเพื่อให้ใครบางคนสามารถส่งย้ิมให้คุณในขณะที่ก้าวเข้ามาในร้าน ไม่มีแม้แต่ส่ิงที่สะท้อนให้เห็นความแตกต่างของขนาด รูปทรง หรือความรู้สึกของหนังสือที่คุณกำลังเลือกซื้อ
ไม่มีภาพของวันคืนเก่า ๆ สำหรับการเลือกซื้อหนังสือออนไลน์
ก่อนหน้าที่จะมี iPad กิจกรรมสุดโปรดช่วงบ่ายวันเสาร์ของผมก็คือ การไปที่ร้านหนังสือ เดินเลือกดู พินิจพิจารณาหนังสือตามชั้นต่าง ๆ แล้วเลือกเล่มที่เราชอบ จากนั้นทิ้งตัวลงตรงมุมหนึ่งของร้าน เปิดอ่านหนังสือ ดูเนื้อหาด้านในสักสองสามหน้า เพื่อตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่
… ….
เมื่อผมเดินไปทั่วร้านหนังสือในนิวยอร์ก ผมคิดที่จะซื้อหนังสือหลายเล่ม แต่ทว่าหลังจากนั้นผมคิดถึงการต้องลากหนังสือเหล่านี้กลับไปยังซานฟรานซิสโก
ผมนึกถึงการใช้งานไม่ได้ของหนังสือเล่มเหล่านี้ ในขณะที่พวกมันดูสวยงาม ผมจำได้ว่า ผมไม่สามารถค้นหาคำเฉพาะในหนังสือเหล่านี้ หรือแบ่งปันข้อความบางส่วนกับเพื่อนผ่าน Twitter และ Facebook ได้ รวมทั้งไม่สามารถเก็บรวบรวมหนังสือทั้ง 500 เล่มในกระเป๋าสะพายหลังโดยไม่ทำให้หลังหัก !
สุดท้ายผมเดินออกจากร้านหนังสือแห่งนั้น โดยไม่ได้ซื้อหนังสือติดมือมาสักเล่ม
ใช่แล้ว ผมคิดถึงหนังสือเล่มและผมก็คิดถึงร้านหนังสือด้วย คิดถึงมาก ผมเพียงแต่หวังว่าใครสักคนจะค้นพบวืธีการทำให้หนังสือดิจิตอลของพวกเขาสร้างความรู้สึกแบบนี้ได้อย่างไร