เมื่อก่อนในจีนมีแอพพลิเคชั่นชื่อว่า ตู้หยิน ( Douyin ) เป็นแอพพลิเคชันสำหรับโพสต์คลิปวิดิโอความยาวสั้น ๆ 15 วินาทีถึง 10 นาที ได้ฟรีเหมือนกับ youtube ในเวอร์ชันจีนนั่นแหละ เจ้าของตู้หยินก็คือบริษัทจีน ByteDance Ltd.
ต่อมาในปี 2017 ByteDance Ltd. ได้ซื้อกิจการของแอพพลิเคชัน musical.ly ที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์โพสต์คลิปทำลิปซิงค์เพลงความยาวสั้น ๆ 15 วินาทีถึง 1 นาที สามารถปรับยืดความเร็วในการเล่นได้ เลือกใส่ฟิลเตอร์รวมถึงเอฟเฟ็กต์ต่าง ๆ ได้ ซึ่งได้รับความนิยมมีบัญชีผู้ใช้กว่า 200 ล้านบัญชี
ในปี 2018 ก็เป็นการนำเอาทั้งสองแอพพลิเคชันที่ว่ามารวมกันแล้วเปิดตัวเป็น TikTok เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้งานทั่วโลก โดยในเดือนตุลาคม 2020 แอป TikTok มียอดดาวน์โหลดทั่วโลกรวมกันเกินกว่าสองพันล้านครั้ง
เข้าใจว่าในตอนนี้ ทุกคนก็คงรู้จัก TikTok กันเป็นอย่างดีแล้ว
…. …… …..
แล้ว Booktok คืออะไร ?
Booktok ก็คือการที่ผู้ใช้ TikTok โพสต์คลิปต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับหนังสือ อย่างเช่นบางคนก็อัดคลิปตัวเอง อ่านประโยคคม ๆ คำโดน ๆ ในหนังสือเล่มต่าง ๆ พร้อมมีเสียงเพลงคลอ หรือเป็นคลิปที่มีการพูดถึงหนังสือที่เพิ่งอ่านจบไป แนะนำหนังสือหรือพูดถึงหนังสือในแง่มุมต่าง ๆ เป็นต้น แล้วติดแฮชแทค #booktok กำกับไว้ ซึ่งก็เหมือนกับป้ายบอกทางว่า ถ้าหากใครสนใจคลิปเกี่ยวกับหนังสือใน TikTok ก็ลองค้นจากแฮชแทคดังกล่าวนี้ดู ซึ่งจากกลุ่มคนเล็ก ๆ ก็กลายมาเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ที่มีพลังมากพอถึงขนาดที่สามารถแนะนำหนังสือของนักเขียนโนเนมคนหนึ่งจนกลายมาเป็นหนังสือขายดีติดอันดับได้
ตามที่ เจมส์ สตัฟฟอร์ด หัวหน้าฝ่ายชุมชนและการมีส่วนร่วมของ TikTok ระบุว่า “Booktok เป็นเหมือนชุมชนของผู้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์จากทั่วโลกเข้ามาร่วมแบ่งปันความปรารถนาของพวกเขาในเรื่องที่เกี่ยวกับวรรณกรรม”
สำนักพิมพ์ ผู้ทำคลิปรวมถึงนักเขียนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า BookTok ส่งผลด้านบวกอย่างล้นหลาม นำไปสู่ยอดขายหนังสือที่เพิ่มขึ้นอย่างมากและยังเป็นการเปิดโอกาสให้ค้นพบนักเขียนหน้าใหม่เข้าสู่วงการ ส่วนทางด้านผู้ขายหนังสือก็ให้เครดิตตรงนี้ว่าเป็นเหมือนกับ “ที่มั่นสุดท้ายของพวกเขาบนอินเตอร์เน็ต”
แต่เหรียญย่อมมีสองด้าน อีกด้านหนึ่งก็พบว่าผู้ใช้หลายคนอาศัย booktok เป็นช่องทางในการแนะนำเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ที่นำหนังสือไปทำเป็น e-book อย่างเช่น Z-Library หลังจากนั้นไม่นาน FBI ก็ได้ปิดเว็บไซต์ดังกล่าว หรืออีกกรณีก็คือ การแนะนำหนังสือบางอย่างอาจมีภาพประกอบหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน
“ไม่มีที่ไหนบนอินเตอร์เน็ตปลอดภัย 100%”
…. …….. …………………..
เมื่อเห็นช่องทางการตลาดรวมถึงจัดจำหน่าย สำนักพิมพ์ก็มองหาอินฟลูเอนเซอร์บนแพลทฟอร์ม TikTok เพื่อให้เขาหรือเธอ นำหนังสือที่ทางสำนักพิมพ์เลือกให้ไปนำเสนอต่อผู้ติดตามโดยมีผลตอบแทนให้ ซึ่งหนังสือบางเล่มก็มีผลตอบรับที่ดี ส่งผลให้ยอดขายหนังสือดีตามไปด้วย ส่วนบางเล่มก็มีดราม่า บ้างก็บอกว่าอินฟลูเซอร์รับงาน หนังสือไม่ได้ดีขนาดนั้นหรือมองว่าตัวอินฟลูเอนเซอร์ตีความเนื้อหาในหนังสือไปคนละอย่าง รวมถึงรับรีวิวหนังสือโดยที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันต่างจากอารมณ์ก่อนหน้าที่ไม่ได้ทำเพื่อการค้าแต่ทำด้วยความชอบ นั่นก็จะส่งผลต่อยอดผู้ติดตามด้วยเช่นกัน
…. ………………………………….
ล่าสุด TikTok ได้ร่วมมือกับสำนักพิมพ์อย่าง Harpercollins UK , WH Smith , Bloomsbury และ bookshop.org เพื่อที่จะขายหนังสือของสำนักพิมพ์เหล่านี้ผ่านช่องทาง marketplace ของ TikTok
/ แต่จริง ๆ ถ้าจะให้สะดวกสำหรับคนไทย สั่งผ่าน Herothailand.com ง่ายที่สุด /
…………
จากสถิติแฮชแทค #Booktok นั้น ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมหาศาล จากการที่มีผู้เข้าชมรวมกันถึงตอนนี้ทั้งสิ้นเก้าหมื่นล้านวิวแล้ว TikTok ได้ร่วมมือกับพันธมิตรมากมายเพื่อผลักดันความสำเร็จนี้ โดยทำให้ผู้ใช้ TikTok สามารถซื้อหนังสือได้โดยตรงผ่านแอป ส่วนทางด้านผู้ขายหนังสือที่เปิดร้านกับ TikTok สามารถลงโฆษณารวมทั้งขายสินค้าของตนให้กับผู้ใช้ภายในแอปได้เลยเช่นกัน นอกจากหนังสือแล้ว ก็ยังสามารถขายสินค้าในหมวดอื่น ๆ อย่างเช่นแฟชั่น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน เครื่องสำอาง อาหารสด อาหาแช่แข็ง เป็นต้น
