ความแตกต่างระหว่าง กลุ่มคนที่มารวมตัวกัน กับ การทำงานเป็นทีม
มาร์ตี้ เดอร์ จอง เล่าเรื่องการทำงานให้เราฟังว่า การทำงานในแต่ละวันนั้น เขามักจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เรามักจะเรียกกันว่า “ทีม” และทุกคนมักจะขอร้องให้เขาทำหน้าที่เป็นเหมือนทีมโค้ช มันเหมือนกับว่า ในแต่ละวันคุณจะต้องอยู่ในทีมใดทีมหนึ่งอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าคุณอาจจะทำอาชีพอิสระ มีงานพิเศษเฉพาะทาง แต่คุณก็เป็นส่วนหนึ่งของทีมอยู่ดี
………….
กลุ่มของคนที่มารวมตัวกันนั้น ไม่ใช่ทีม
หน่วยพื้นฐานในการเรียนการจัดการองค์กรก็คือการทำงานเป็นกลุ่มหรือที่เราเรียกว่า ทีม
ทีมเหมือนเป็นเจ้าของปัญหา เป็นผู้ถ่ายทอดความทะเยอทะยาน เป็นกลุ่มคนที่ต้องการให้คนอื่น ทำงานร่วมกันจนประสบความสำเร็จ โดยทีมมักจะต้องพึ่งพากันสูงมาก พวกเขาต้องวางแผนการทำงาน แก้ปัญหา ตัดสินใจและประเมินกระบวนการทำงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ สมาชิกของทีมต้องการต้องอาศัยการทำงานของแต่ละคนให้สำเร็จลุล่วงแล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกัน
……………….
มักจะพูดกันว่า กลุ่มคนที่มารวมกันนั้น เรียกว่า ทีม
อย่างไรก็ตาม ทีมแตกต่างจากกลุ่มตรงที่ทีมนั้นมีหัวหน้าทีม โดยแต่ละคนในทีมจะรับผิดชอบทำงานให้ลุล่วงเป้าหมายที่ตนรับผิดชอบด้วยศักยภาพที่ตั้งไว้ ส่วนในกลุ่ม หัวหน้ากลุ่มจะทำหน้าที่รับผิดชอบเพียงผู้เดียว
ทีมมองว่าเป็นเหมือนกลุ่มทางจิตวิทยาซึ่งสมาชิกของกลุ่มจะมีเป้าหมายร่วมกันและก้าวไปสู่เป้าหมายดังกล่าวด้วยกัน
ดังนั้นการทำงานร่วมกันเป็นทีมจึงต้องอาศัยภาษาเดียวกัน ซึ่งหมายถึงวิธีคิดและการพูดถึงปัญหา
“ความแตกต่างระหว่างกลุ่มคนและทีมก็คือ ความปลอดภัยทางจิตวิทยา”
สิ่งที่ต้องใช้ความปลอดภัยทางจิตวิทยาคืออะไร ?
เราลองมองที่ผลของความปลอดภัยทางจิตวิทยา และดูว่ามันทำอะไรให้กับแต่ละคนกัน
……….
ความปลอดภัยทางจิตวิทยา
นักวิทยาศาสตร์พฤติกรรมของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เอมี เอ็ดมุนสัน ได้พูดถึงโครงสร้างของ “ความปลอดภัยทางจิตวิทยาของทีม” เป็นครั้งแรก และได้นิยามว่า “เป็นการแบ่งปันความเชื่อที่มีของสมาชิกของทีม โดยทีมเป็นที่ปลอดภัยสำหรับการรับความเสี่ยงระหว่างบุคคล”
เมื่อพูดถึงควาามปลอดภัยทางจิตวิทยานั้น ฟังดูง่าย แต่ในฐานะที่เป็นสมาชิกของทีม คุณอาจจะถามคำถามพื้นๆอย่าง “อะไรคือจุดประสงค์ของโครงการความปลอดภัยทางด้านจิตวิทยา”
เพราะว่า ล้วนไม่มีใครต้องการเจอกับความเมินเฉย ถูกมองว่าไร้ความสามารถ ถูกล่วงล้ำหรือปฏิสัมพันธ์ที่เป็นด้านลบจากคนรอบข้าง
นี่คือเหตุผลว่าทำไม เราถึงได้พัฒนากลไกการป้องกันตัวเองในการจัดการกับภาวะไม่พึงประสงค์เหล่านี้
……….
เราต้องการให้สมาชิกในทีมมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เพื่อที่พวกเขาจะได้มีความเชื่อมั่นและจะไม่มีใครต้องโทษกันไปมา
ดังนั้นการถามคำถามหรือการมาพร้อมกับความคิดใหม่จึงถูกกระตุ้นได้ดีกว่าในสภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัยทางจิตวิทยา ทุกคนรู้ว่าไม่มีผลลัพธ์ที่เป็นลบสำหรับสิ่งนี้
นักวิจัยได้จำแนกกุญแจสำคัญห้าอย่างที่การจะเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมี ซึ่งความปลอดภัยทางด้านจิตวิทยานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดโดยต้องมีปัจจัยอื่นที่เหลืออีกสี่อย่างรองรับด้วย
…………
พลวัตของการเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ
นักวิจัยของ Google ได้ค้นพบว่า การที่จะมีใครในทีมนั้นไม่สำคัญแต่สำคัญตรงที่ว่าในทีมมีการทำงานร่วมกันอย่างไร
ลำดับความสำคัญเป็นดังนี้
1.ความปลอดภัยทางจิตวิทยา : สมาชิกของทีมรู้สึกปลอดภัยในการที่จะรับความเสี่ยงและเต็มใจที่จะเสี่ยงไปด้วยกัน
2.ความสามารถในการทำงาน : สมาชิกของทีมยอมรับความเสี่ยงในการที่จะทำงานให้เสร็จทันเวลาอย่างเต็มความสามารถ
3.โครงสร้างและความชัดเจน : สมาชิกของทีมรู้ว่าพวกเขาคาดหวังอะไรเพราะว่าพวกเขามีบทบาทที่ชัดเจน มีแผนงานและเป้าหมาย
4.ความหมาย : โดยความรู้สึกแล้ว ความหมายทั้งในแง่ของตัวการทำงานและผลของมันนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของทีม
5.ผลกระทบ : ผลจากการทำงานของคุณ การตัดสินประเมินผลงานตามหัวข้องานที่ได้รับมอบหมาย ทำให้เกิดผลที่ชัดเจนและแตกต่าง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทีม
การร่วมมือกันอย่างแข็งขันช่วยให้พนักงานจัดการกับการกระจายความไม่ปลอดภัย การทำงานเป็นทีมเกิดเป็นสิ่งที่มีความหมาย ผู้คนต่างก็มีความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง ความรู้สึกว่าพวกเขาสื่อถึงกันและร่วมกันสร้างบางสิ่ง มิฉะนั้นแล้ว ผลของความพยายามทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้น
ทั้งนี้เพราะว่า เมื่อพนักงานได้เป็นตัวของตัวเองโดยไม่มีความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของทีม มันก็จะไม่มีการทำงานเป็นทีมเกิดขึ้น
เคล็ดลับก็คือต้องส่งเสริมพฤติกรรมที่ช่วยสนับสนุนการทำงานเป็นทีม
………………
ส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานเป็นทีม
ต่อไปนี้จะพูดถึงข้อแนะนำสำหรับผู้จัดการและผู้นำที่จะช่วยส่งเสริมพฤติกรรมซึ่งนักวิจัยพบว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำงานเป็นทีม
ข้อมูลเหล่านี้อ้างอิงจากงานวิจัยภายนอกและประสบการณ์จาก Google
ความปลอดภัยทางด้านจิตวิทยา
- สอบถามถึงแนวความคิด อุปกรณ์ หรือวิธีการที่เราจะนำเข้าไปใช้กับทีม นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงใช้ post-it ในการทำงานมากเหลือเกิน ก็เพื่อที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นของตัวเองได้
คุณต้องพร้อมที่จะเสี่ยง
- เข้าถึงความท้าท้ายมองเป็นการเรียนรู้ปัญหา ไม่ใช่การเพิ่มหรือสร้างปัญหา เป็นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ความน่าเชื่อถือ
- บทบาทที่ชัดเจนและความรับผิดชอบของสมาชิกในทีม
- พัฒนาโปรเจ็กต์ที่แข็งแกร่งในการสร้างความโปร่งใสในการทำงานของแต่ละคน ตามโครงสร้างหน้าที่การทำงานและมีความชัดเจน
- พยายามพูดถึงเป้าหมายของทีมร่วมกันอยู่เสมอและทำให้สมาชิกในทีมเข้าใจแผนงานเพื่อจะให้ได้ทำงานลุล่วงไปยังเป้าหมายได้
- ต้องมีวาระการประชุมให้ชัดเจนพร้อมทั้งผู้รับผิดชอบที่เจาะจงได้
ความหมาย
- ชื่นชมผลงานที่สมาชิกในทีมทำได้ดีและเสนอหรือพร้อมให้ความช่วยเหลือ หากสมาชิกมีปัญหา