ผมเชื่อว่ามีผู้คนมากมายที่มีบุคลิกชอบเรียนรู้ ค้นคว้าด้วยตนเอง พวกเขาเชื่อว่าบนโลกนี้มีความรู้ตั้งมากมายที่สามารถเรียนรู้และนำไปใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและการทำงานได้
ในยุคข้อมูลข่าวสารทำให้การเข้าถึงความรู้ต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกนั้นเป็นเรื่องง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ต้องรู้ก่อนนะ ว่าจะไปหาความรู้ได้จากตรงไหนบ้าง
….
หากเราเป็นคนที่ชอบค้นคว้าหาความรู้ใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อที่จะได้มีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นในการพัฒนาตัวเองไปเป็นนักเขียนที่ดีขึ้น นักลงทุนหรือผู้ประกอบการที่มีศักยภาพมากขึ้น ดังนั้นแล้วการเรียนรู้อย่างไม่หยุดหย่อนจึงถือเป็นวินัยที่สำคัญ
คนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากล้วนเป็นคนที่ให้คุณค่ากับการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
…….
บิล เกตต์ อ่านหนังสือปีละ 50 เล่ม
มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก อ่านหนังสืออย่างน้อย 1 เล่ม ทุกสองสัปดาห์
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับอ่านหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับและรายงานของบริษัทอีกราว ๆ 500 หน้า
อีลอน มัสก์ โตมากับการอ่านหนังสือวันละ 2 เล่ม เขาจึงเป็นผู้รอบรู้และเรียนรู้ในสิ่งที่อยู่นอกเหนือไปจากธุรกิจที่เขาทำอยู่ เขาอ่านหนังสือเป็นร้อย ๆ เล่ม แถมยังทำงานกับคนเก่ง ๆ ระดับหัวกะทิสุดยอด
ทุกวันนี้อีลอนถึงเป็นหนึ่งในคนที่มีความคิดที่แปลก แหวกแนว เหลือเชื่อ
……
แล้วเราสงสัยหรือไม่ว่า มันทำให้เขาฉลาดขึ้นได้อย่างไร ?
อีลอน มัสก์ เคยพูดไว้ว่า “คุณไม่รู้อะไรในสิ่งที่คุณไม่รู้ แต่คุณรู้ว่ามันมีสิ่งเหล่านั้นอยู่”
ในชีวิตการทำงานของเขา อีลอนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท PayPal ผู้รับชำระเงินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำบริษัท Tesla สร้างจรวดและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ทำบริษัทขนส่งไปอวกาศอย่าง SpaceX แล้วยังมี Solarcity ทำธุรกิจเกี่ยวกับฟาร์มโซลาเซลล์ขายไฟฟ้าให้รัฐรวมถึงให้เช่าแผงโซลาเซลล์
ประสบการณ์ของเขาครอบคลุมตั้งแต่วิทยาศาสตร์เรื่องจรวด วิศวกรรม ฟิสิกส์ และปัญญาประดิษฐ์ไปจนถึงพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานแบบอื่น ๆ
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในหลาย ๆ เรื่อง แล้วยังสามารถนำความรู้ที่มีไปประยุกต์ไปใช้ได้ทันที นี่คือสิ่งที่ทำให้เขาสามารถสร้างธุรกิจที่เปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมขึ้นมาได้
เขาเป็นผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์ มีความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้า เป็นคนที่อ่านหนังสือเพื่อที่จะเป็นผู้นำ “Read to Lead”
เป้าหมายของเขาคือการลดภาวะโลกร้อนผ่านการผลิตและการใช้พลังงานงานอย่างยั่งยืน และลดความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติ ด้วยการมองหาการตั้งรกรากบนดาวเคราะห์ดวงอื่น ซึ่งเป้าหมายแรกก็คือการสร้างนิคมของมนุษย์บนดาวอังคาร
อีลอนมีทักษะการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยสิ่งสำคัญประการแรกคือการทำความเข้าใจพื้นฐานต่างๆ
ทุกสิ่งทุกอย่างมีหลักการของมัน เปรียบดั่งเช่นต้นไม้ ที่ต้องมีราก มีลำต้น มีกิ่งก้านและใบ เราต้องเข้าใจพื้นฐานของมันก่อน
พูดอีกนัยหนึ่งได้ว่า คุณต้องเข้าใจรากไม้ก่อน ต่อไปที่ลำต้น จากนั้นก็ไล่ไปที่กิ่งก้านที่แตกแขนงออกไป อย่าไปเริ่มจากกิ่งก้านหรือใบ ควรเริ่มจากรากและกรุยทางขึ้นไปสู่ยอด คุณต้องเข้าใจพื้นฐานของมันก่อนเป็นสิ่งแรก
……….
ในหนังสือชื่อ Elon Musk: How the Billionaire CEO of SpaceX and Tesla is Shaping our Future ที่เขียนโดย Ashlee Vance
แอชลี บอกว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่เห็นปริมาณความรู้ที่เขาสั่งสมมาในช่วงหลายปี ผมแทบไม่อยากเป็นคนที่ต้องมาแข่งขันกับอีลอน คุณอาจจำเป็นต้องออกจากธุรกิจและไปหาอะไรสนุก ๆ ทำแทน เพราะอีลอนจะทำทุกอย่างที่ล้ำหน้าไปกว่าคุณ คิดนอกกรอบไปกว่าคุณ และเอาชนะคุณ”
มีคนถามอีลอนว่า เขาทำอย่างไรถึงเรียนรู้ได้มากและได้เร็ว
เขาตอบว่า
“ผมเชื่อว่าคุณส่วนใหญ่สามารถเรียนรู้ได้เยอะมากกว่าที่พวกเขาคิด แต่พวกเขาดูถูกตัวเองโดยไม่แม้แต่จะลองทำ มันเป็นเรื่องสำคัญนะที่เราต้องมองความรู้เปรียบเหมือนกับต้นไม้ ต้องแน่ใจว่าเราเข้าใจหลักการพื้นฐาน เช่น ลำต้น กิ่งใหญ่ ก่อนที่เราจะไปถึงใบไม้หรือรายละเอียดอื่นๆ”
มันมีความหมายอย่างไรในทางปฏิบัติ นั่นก็คือไม่ใช่ทุกสิ่งที่เราจะต้องให้น้ำหนักหรือให้ความสำคัญเท่ากันไปหมดในตอนที่เราเริ่มต้นเรียนรู้วิชาใด ๆ ก็ตาม
อะไรก็ตามที่เราเลือกที่จะศึกษาหรือว่าเรียนรู้ ต้องเริ่มต้นจากพื้นฐาน อย่ามองข้ามพื้นฐาน คุณควรเข้าใจรากเหง้าของความรู้ก่อน มากกว่าที่จะมองไปที่กิ่งก้านหรือใบโดยที่ยังไม่เข้าใจพื้นฐานอย่างถ่องแท้
เริ่มทำในสิ่งที่คนอื่น ๆ ทำ แล้วเมื่อเริ่มคล่องขึ้นหรือเก่งขึ้น มีทักษะบ้างแล้วเราก็สามารถต่อยอดออกไปได้ เรียนรู้จากคนเก่ง ๆ ขยายขีดความสามารถของเราให้กว้างขึ้น ดูว่าคนเก่ง ๆ เขาทำอย่างไร เลียนแบบเขา ศึกษาจากเขา
อีลอนเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำความเข้าใจแก่นของอุตสาหกรรมที่เขาสนใจ และสิ่งไหนที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษเป็นอันดับแรกในตอนเริ่มทำธุรกิจ
เขาไม่ใช่คนที่เรียนรู้จากการปะติดปะต่อข้อมูลสุ่ม ๆ ทุกสิ่งนั้นจะต้องเชื่อมโยงหากันได้ มีความเกี่ยวข้องกัน จนทำให้เกิดเป็นพื้นฐานความเข้าใจที่มีประสิทธิภาพ
อีลอน บอกว่า “ถ้าคุณอยากเรียนรู้อะไร คุณต้องหลอมมันให้อยู่ในรูปแบบที่พื้นฐานที่สุดก่อน จากนั้นก็เรียนรู้จากตรงนั้น คุณไม่สามารถเรียนรู้จากการมองดูแนวคิดของคนอื่นหรือสิ่งที่มันสำเร็จมาแล้วได้”
หากคุณต้องการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น คุณก็ต้องเรียนรู้จากพื้นฐานของมันแล้วค่อย ๆ ไล่ขึ้นมา มีสมาธิกับมันจดจ่อกับมัน อย่าเพิ่งไปมัวสับสนกับกิ่งก้าน ใบ ใส่ใจกับรากมันก่อน