ปัจจุบัน Apple มีเงินสดให้ใช้มากกว่ารัฐบาลสหรัฐฯ
ตัวเลขล่าสุดจากกรมธนารักษ์ของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าประเทศนี้มีเงินสดหมุนเวียนราว 73.7 พันล้านเหรียญฯ ในขณะที่ Apple มีเงินสดหมุนเวียนในตอนนี้ถึง 76.4 พันล้านเหรียญฯ
รัฐสภาสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างการลงมติเพิ่มเพดานการก่อหนี้ (โดยล่าสุดสามารถเพิ่มเพดานการก่อหนี้ได้สำเร็จ ) เพื่อให้ประเทศสามารถกู้ยืมเงินได้เพิ่มขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล
ถ้าหากแผนการขยายเพดานการก่อหนี้ให้เกิน 14.3 พันล้านเหรียญฯ นี้ล้มเหลว รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ต้องลำบากในการหาเงินมาชำระหนี้และเสี่ยงต่อการถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือจากที่เคยอยู่ในระดับ AAA
สหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างการใช้เงินจำนวนราว สองแสนล้านเหรียญฯ มากกว่าที่สามารถเก็บภาษีได้รวมกันในทุกเดือน
ในทางกลับกัน Apple กำลังมีเงินล้นมือเป็นครั้งแรก ตามรายงานทางการเงิน โดยในช่วงสามเดือนแรกจนถึง ณ วันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา รายรับสุทธิได้เพิ่มขึ้นถึง 125% สูงกว่าปีก่อนหน้านี้ 7.31 พันล้านเหรียญฯ
จากการที่มีเงินนอนอยู่ในธนาคารกว่า 75 พันล้านเหรียญฯ หรือสินทรัพย์ที่สามารถแปรรูปได้ง่าย จึงถูกจับตามองอย่างมากว่า Apple จะทำอย่างไรกับเงินจำนวนนั้น
Daniel Ashdown นักวิเคราะห์จาก Juniper Research บอกว่า “Apple เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับสุดยอด”
นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมเชื่อว่า นี่กำลังเป็นการดำเนินยุทธศาสตร์สงครามในการได้ธุรกิจอื่นมาครอบครองและเพื่อรักษาสิทธิบัตรทางเทคโนโลยีของตน
Ashdown ยังบอกอีกว่า “ร้านหนังสือ Barnes and Noble และเว็บไซต์ดูหนังออนไลน์อย่าง Netflix ทั้งสองอย่างนี้ได้กลายเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างเป็นไปได้”
บางที Apple อาจกำลังมองไปที่บริษัทขนาดเล็กที่ได้พัฒนาระบบที่พวกเขาต้องการเพิ่มเข้าไปในอุปกรณ์ เช่น ระบบการจดจำเสียงก็เป็นได้
Apple ได้หันมาพัฒนาสิ่งที่พวกเขาสะสมไว้เมื่อเร็ว ๆ นี้ เมื่อคร้ั้งที่ร่วมมือกับ Microsoft ในการซื้อสิทธิบัตรจำนวนหนึ่งจาก Nortel บริษัทสัญชาติแคนาดาที่ได้ประกาศล้มละลาย
การร่วมมือในกันการประมูลครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่ากว่า สี่พันห้าร้อยล้านเหรียญฯ โดยได้ครอบครองสิทธิบัตรกว่า 6,000 รายการ