ตามรายงานหัวข้อ Trade E-Book Publishing 2011 ของบริษัท Simba Information ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยสื่อและสิ่งพิมพ์ของอเมริกา บอกว่า ราว 40% ของผู้ใช้ iPad ไม่เคยใช้อุปกรณ์เพื่ออ่าน e-book เลยสักครั้งเดียว ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่า iPad ถูกใช้สำหรับเล่นเกมส์และบริโภคสื่ออื่น ๆ มากกว่า
สิ่งหนึ่งที่น่าแปลกใจว่าทำไมตั้ง 40% ถึงไม่ใช้เคยใช้ iPad อ่าน e-book กำลังถูกให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในขณะที่ฝั่ง 60% นั้น เคยใช้ iPad อ่าน e-book อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ถามว่าตัวเลขนั้นไม่มีนัยสำคัญอะไรใช่ไหม ???
Michael Norris ผู้ทำรายงานชิ้นนี้และเป็นนักวิเคราะห์อาวุโสจาก Simba Information กล่าวว่า “ส่วนแบ่งการตลาดของ iPad นั้น เป็นสิ่งที่น่าประทับใจในการบอกว่ามันถูกขายไปได้มากน้อยเพียงใด แต่ทว่าตัวเลข 60% นั้นรวมถึงคนที่อาจจะอ่าน e-book เพียงแค่หน้าเดียวจาก e-book ที่แจกฟรีไปจนถึงคนที่อ่านหลาย ๆ เล่ม”
เขาย้ำว่า “ผมยังมีความเชื่อว่า หากมองในมุมของอุตสาหกรรม เราใช้เวลาไปตั้งมากมายกับกลุ่มคนที่เรารู้แล้วว่าพวกเขาจะเป็นคนซื้อหนังสือ หากเราให้ความสำคัญกับการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ เราต้องเริ่มต้นกับคนที่ไม่คิดจะซื้อหนังสือ ซึ่งเฉพาะอเมริกาอย่างเดียวก็มีคนกลุ่มนี้มากกว่า 100 ล้านคนและเราก็กำลังบั่นทอนตัวเองหากเราไม่สามารถขายกิจกรรมการอ่านให้กับพวกเขา”
“ผมกำลังให้ความสำคัญกับตัวเลข 40% เป็นอย่างมาก เพราะว่าเมื่ออุตสาหกรรมนี้พูดถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ขายไป สิ่งเหล่านั้นก็เป็นเสมือนตัวแทนของลูกค้าคนใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะใช้ iPad ไปในทิศทางดียวกันเสียเมื่อไหร่ ดังนั้นแม้ว่าเนื้อหาของหนังสือสามารถเข้าถึงได้โดยผู้ใช้่ iPad นับล้านคน ขณะเดียวกันคนเหล่านั้นก็อาจเลือกที่จะไม่อ่านก็ได้”
เขายังกล่าวต่ออีกว่า
“เราต้องระลึกอยู่เสมอว่า iPad เป็นที่นิยมอย่างมากภายในระยะเวลาอันสั้น และความสามารถของ iPad นั้นทำให้คนที่ไม่อ่านหนังสือสามารถใช้มันทำกิจกรรมอย่างอื่นนานขึ้นในแต่ละวัน ผมแค่แปลกใจถ้าหากตัวเลข 40% ในปีนี้จะเพ่ิมเป็น 45% ในปีหน้า ดังนั้นหลังจากที่ iPad หาซื้อได้ทั่วไปแล้ว เราจะเห็นว่ามีจำนวนคนเท่าไหร่ที่กำลังใช้มันอ่านหนังสือกับคนอีกกลุ่มที่ใช้มันเล่นนกพิโรธ ( Angry Birds )
ในกรณีนี้มันก็ไม่มีค่าอะไรเช่นกัน จากการที่ e-book มีปัญหาเดียวกันกับหนังสือแบบตัวเล่ม จะให้คนเหล่านั้นเจอกับเนื้อหาในหนังสือของผมได้อย่างไร เพราะว่าด้วยสัดส่วนที่คล้ายกันของกลุ่มคนที่ไม่ซื้อหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็ตามนั้น (e-book หรือแบบตัวเล่ม) มีมากกว่า 40% ฉะนั้น คำถามมันไม่ได้อยู่ที่ว่า จะเข้าถึงเนื้อหาได้หรือไม่แต่มันอยู่ที่ว่าเนื้อหานั้นมีค่าหรือไม่ต่างหาก ”
