วันนี้เรามาว่าด้วยเรื่องผ่าตัดเปลี่ยนหัว ! ครั้งแรกของโลก
จริงๆ มันน่าจะเรียกว่า ผ่าตัดเปลี่ยนตัวมากกว่านะ
หนุ่มรัสเซีย วาเลอรี สปิริดินอฟ อายุ 30 ปี กำลังเตรียมตัวเตรียมใจที่จะเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวในปี 2017
จะทำได้สำเร็จหรือ ?
วาเลอรี ป่วยเป็นโรคที่เรียกว่า Werdnig Hoffman disease ภาวะกล้ามเนื้อลีบที่ส่งผลให้ความสามารถทางกายลดลงทำให้เขาต้องนั่งรถเข็นอยู่ตลอด
เขาตัดสินใจที่จะเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวเป็นคนแรกของโลก เพื่อที่จะให้สมองของเขาได้อยู่บนร่างกายที่มีกล้ามเนื้อปกติเหมือนคนอื่น ๆ
หัวคนนะ ไม่ใช่หัวก๊อกน้ำ ที่มีเกลียวนอกเกลียวใน หมุนแป๊บ ๆ ก็เสร็จ !
แพทย์ที่รับหน้าที่ในการผ่าตัดครั้งนี้คือ ด็อกเตอร์ เซอร์จิโอ คานาวาโร ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาชาวอิตาลี โดยอ้างว่าการผ่าตัดกล่าวใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง และโอกาสประสบความสำเร็จสูงถึง 90%
คำถามที่สำคัญก็คือ แล้วสมองของ คุณ วาเลอรี จะยังทำงานตามปกติไหม เหมือนเดิมหรือเปล่า หลังจากผ่าตัดแล้วเสร็จ ? ระหว่างผ่าตัดทำยังไงที่จะไม่ให้เซลล์สมองตาย ?
ระหว่างผ่าตัดต้องผันเลือดจากร่างกายที่แข็งแรงมาเชื่อมกับร่างกายเดิมเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายเดิมและเลี้ยงเซลล์สมองไม่ให้ตาย
อันดับแรก ควบคุมอุณหภูมิส่วนร่างกายของผู้ให้และผู้รับให้อยู่ระหว่าง 10 ถึง 20 องศาเซลเซียส จริง ๆ ก็อยู่ที่ 15-17 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นเทคนิคที่รู้จักกันดีสำหรับใช้ในการผ่าตัดระบบประสาทที่ค่อนข้างซับซ้อนหน่อย หรืออย่างเช่น การผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ ที่ทำเช่นนี้เพื่อให้สมองยังคงเก็บเลือดและออกซิเจนให้หล่อเลี้ยงเซลล์ไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง
ขั้นตอนต่อมาก็คือ ตัดไขสันหลัง โดยการใช้ใบมีดที่คมมาก ๆ เพื่อลดความเสียหายบริเวณที่ตัด จากนั้นก็จะตัดเอาหัวของผู้บริจาคร่างกายออกแล้วเอาร่างกายไปเชื่อมกับหัวของผู้รับ ขั้นตอนถัดมาก็ทำให้ไขสันหลังเชื่อมกันด้วยการใช้ โพลี่เอ็ทธิลีน ไกลคอล (polyethylene glycol) ซึ่งเป็นสารประกอบที่ใช้ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว
ต่อมาก็ทำการเย็บหลอดเลือดและเส้นประสาทให้เรียบร้อย และคุณ วาเลอรี ก็จะต้องกลายเป็นผู้ป่วยหนักนอนนิ่ง ๆ อยู่หลายสัปดาห์เลยเพื่อให้ส่วนไขสันหลังเชื่อมต่อกันให้ดี….
ผมขออวยพรให้การผ่าตัดครั้งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี
คุณ วาเลอรี เอง ก็จะก้าวข้ามอุปสรรคทางกาย เป็นคนใหม่ที่เขารอคอย
โลก ก็จะได้พบเจอกับวิทยาการใหม่ ๆ ที่ดีขึ้น….
โชคดีครับ