เมื่อ Jeff kinney นักเขียนดังผู้เขียนหนังสือชุด Diary of a Wimpy Kid ซึ่งขายดีติดอันดับทั้ง 8 เล่มตัดสินใจเปิดร้านหนังสือของเขาเองเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในเขตชุมชนที่อยู่ห่างจากเมืองบอสตันราว 56 กิโลเมตร
เราต่างรู้กันอยู่ว่าการทำร้านหนังสือไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย เพราะอะไรคุณถึงคิดว่าจะทำมันไปรอด ยิ่งมาอยู่ไกลจากเมืองใหญ่แบบนี้อีก ?
- ผมคิดว่ายังมีสถานที่สำหรับร้านหนังสือจริง ๆ อยู่ในชุมชนเล็ก ๆ เนื่องจากพฤติกรรมการซื้อสินค้าของทุกคนได้เปลี่ยนไป คนจะไม่ไปที่ร้านทั่วไป ๆ ในย่านใจกลางเมืองอีกแล้ว พวกเขาจะไปที่โมเดิร์นเทรดใหญ่ ๆ แค่นั้น ดังนั้นร้านหนังสือจึงมีโอกาสที่จะดึงดูดผู้คนที่รักหนังสือแวะมาที่ร้านและทำความรู้จักซึ่งกันและกัน
-
แต่ถ้าให้พูดตามตรงเลยนะ ผมรู้สึกไม่พอใจที่ร้านหนังสือหลายแห่งปิดตัวลงไป ร้านหนังสือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตของผมและภรรยาตลอดมาและเราก็อยากมีร้านหนังสือ อยากให้ลูก ๆ และชุมชนที่เราอาศัยอยู่มีสถานที่ที่สามารถพบเจอได้กับความคิดใหม่ ๆ กิจกรรมทางสังคมและพบปะกับคนที่รักหนังสือเหมือน ๆ กัน
คุณคิดว่าเด็ก ๆ ควรอ่านหนังสืออย่างไหนมากกว่ากัน ระหว่าง e-book กับ หนังสือตัวเล่ม ?
ผมเชื่อว่ามันคงดีกว่าหากเราให้เด็กถือหนังสือไว้ในมือ เด็กจะได้เชื่อมโยงความคิดและคำต่าง ๆ ในหน้าหนังสือเวลาที่เขาพลิกไปหน้าต่าง ๆ แต่ถ้าให้เด็กอ่านตัวหนังสือบนหน้าจอซึ่งมักจะมีเนื้อหาที่เป็นอินเตอร์แอ็คทีฟ คอยดึงความสนใจจากตรงนั้นไป
ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่การอ่าน e-book น่าจะเป็นส่วนเสริมของการอ่านหนังสือตัวเล่มมากกว่า
หลายปีมานี้ เมื่อมี e-book ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอด เพราะว่าผมเห็นลูก ๆ แบกกระเป๋าเรียนที่หนักอึ้ง มันน่าจะเหมาะกับพวกหนังสือเรียนเล่มหนา ๆ หนัก ๆ แต่นวนิยายเป็นสิ่งที่ต่างออกไป คือมันก็มีความเหมาะสมกับหนังสือแต่ละประเภท ผมเพิ่งอ่านเจอที่ไหนสักแห่งที่บอกว่า เด็กจะมีความจำดีกว่าเมื่ออ่านหนังสือตัวเล่มซึ่งน่าจะจริงนะ
คุณมีอะไรจะแนะนำผู้ปกครองในการที่จะทำให้เด็ก ๆ รักการอ่าน ?
สิ่งที่ดีที่สุดที่พ่อแม่สามารถทำได้ก็คือการให้ในสิ่งที่ลูก ๆ สนใจมากที่สุด ถึงแม้พ่อแม่จะไม่สนใจสิ่งนั้นก็ตาม เด็ก ๆ อาจจะชอบอ่านเรื่องกีฬา เราก็สนับสนุนหนังสือที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับกีฬาอะไรทำนองนั้น ให้เขาได้มีเวลาอยู่กับสิ่งที่เขาสนใจ
