ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองเพียงไม่นาน ได้เริ่มมีการผลิตหนังสือปกอ่อนซึ่งมีราคาถูก ทำให้คนจำนวนมากสามารถซื้อหามาอ่านได้ โดยเพียงแค่ในปีแรกที่ผลิตหนังสือปกอ่อนออกมาวางขายนั้น ก็ได้รับความนิยมอย่างมากและขายได้หลายล้านเล่ม แต่ขณะเดียวกัน นักเขียนชื่อดังรวมทั้งสำนักพิมพ์ส่วนใหญ่ก็มองว่า หนังสือปกอ่อนจะเป็นตัวทำลายอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากมีราคาถูกส่งผลต่อส่วนแบ่งรายได้สำหรับผู้ทีเ่กี่ยวข้องในขั้นตอนต่าง ๆ ทำให้ร้านขายหนังสือบางแห่งปฏิเสธที่จะวางขายหนังสือปกอ่อน ทำให้สำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือปกอ่อนออกมานั้น ต้องเสาะหาช่องทางจัดจำหน่ายอื่นอย่างเช่น วางขายตามแผงหนังสือพิมพ์หรือร้านขายยา

Google และ Barnes & Noble ได้จับมือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์เพื่อทานอำนาจกับคู่แข่งที่มีร่วมกัน นั่นก็คือ Amazon ซึ่งครองพื้นที่ค้าปลีกออนไลน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าหนังสือมานาน อันเนื่องมากจากจุดแข็ง การจัดส่งหนังสือได้เร็วและราคาถูก ผู้ซื้อหนังสือจะได้รับหนังสือภายในวันเดียว เมื่อสั่งซื้อสินค้าผ่าน Google Shopping Express ซึ่งเป็นบริการขายของออนไลน์และบริการจัดส่งสินค้าของ Google โดยอาศัยการจัดส่งหนังสือจากร้านสาขาของ Barnes & Noble ที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ของลูกค้า

// // บทเรียนจาก Amazon ที่ทำให้เราต้องประเมินรูปแบบธุรกิจของเราใหม่ รูปแบบโมเดลธุรกิจเป็นผลมากจากการตัดสินใจ ในการที่เราจะสร้างยอดขาย สร้างรายรับและบริหารความเสี่ยง รูปแบบธุรกิจขายหนังสือก็เช่นเดียวกัน นักเขียนหรือสำนักพิมพ์มักจะขายหนังสือผ่านร้านหนังสือหรือห้องสมุดเป็นหลัก ตามปกติ เราเลือกการขายหนังสือในทำนองนี้เนื่องจากว่า "มันเป็นแนวธุรกิจที่เราทำกันมานาน มากกว่าที่จะมาใคร่ครวญการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานของการแข่งขันและการวิเคราะห์ตลาด" จากข้อมูลของ BookScan พบว่าหนังสือออกใหม่จำนวน 93% ไม่เคยขายได้เกิน 100 เล่ม เห็นทีเราควรต้องหาวิธีการขายหนังสือที่แตกต่างไปจากเดิม .....! คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเป็นการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เพียงแต่ต้องรู้จักมองหาโอกาสใหม่ ๆ ยกตัวอย่างเช่น นอกจากการขายหนังสือผ่านทางร้านหนังสือและห้องสมุดแล้วทำไมไม่ลองหาหนทางอื่นในการเพิ่มยอดขาย โอกาสที่แตกต่างรวมถึงการขายให้กับหน่วยงาน องค์กร ห้างร้าน โรงเรียนหรือแม้แต่กองทัพ นอกจากนี้แล้วยังมีร้านค้าปลีกอื่น ๆ นอกจากร้านหนังสือที่เราอาจวางขายหนังสือของเราได้ อย่างเช่น...

แต่หลังจากที่ ฮิลลารี คลินตัน เปิดตัวหนังสือที่ Barnes & Noble สาขายูเนี่ยนสแควร์ ในความเห็นของนักวิเคราะห์มองว่า ถึงแม้เธอจะเคยเป็นอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งรวมทั้งเคยเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แต่ในงานเปิดตัวหนังสือของเธอยังดึงดูดผู้คนได้น้อยกว่าตอนที่ จัสติน บีเบอร์ มาเปิดตัวหนังสือของเขาพร้อมกับแจกลายเซ็นต์

ร้านหนังสือที่เคยใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Borders ได้ประกาศล้มละลายและปิดตัวลงไปแล้ว ส่วน Barnes & Noble ที่กลายมาเป็นร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีสาขามากที่สุดก็กำลังอยู่ในสภาพย่ำแย่ และเมื่อมองยอดขายรวมของตลาดหนังสือพบว่ายอดขายตกลงไปถึง 22% ในรอบห้าปีมานี้ ถามว่านี่เป็นฝันร้ายที่กลายเป็นจริงของคนรักหนังสือทุกผู้ทุกนามใช่หรือไม่ ?

การเติบโตของอินเตอร์เน็ตได้เร่งพลวัตที่เป็นการเริ่มต้นจุดสิ้นสุดของ Net Book Agreement รวมทั้งการเกิดขึ้นของ Amazon และผู้ขายรายอื่นที่พากันลดราคาก่อให้เกิดพลังการซื้ออย่างมหาศาล กลายว่าเป็นแรงกดตันต่อกำไรของสำนักพิมพ์เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่บางสำนักพิมพ์อาจจะยังสามารถยืนระยะโดยอาศัยกำไรเล็กน้อยจากหนังสือขายดี แต่มันยากมากกว่าเดิมสำหรับสำหรับสำนักพิมพ์ที่เน้นเนื้อหาหรือหนังสือเฉพาะกลุ่ม

ในอนาคต e-book จะทำตัวเป็นเหมือนกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ เราจะอ่าน e-book กันบนโทรศัพท์ แบ่งปันและแสดงความคิดเห็นได้ทันทีผ่าน app ที่ใช้ในการอ่าน e-book และสำนักพิมพ์จะใช้ข้อมูลของเราเพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจทำการตลาดได้ดีขึ้น

Amazon เตรียมเปิดตัว Kindle Matchbook ซึ่งเป็นโปรเจกต์ล่าสุดและคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้ Kindle โดยโปรโมชั่นดังกล่าวนี้สามารถให้ลูกค้าที่เคยซื้อหนังสือตัวเล่มจาก Amazon ไปก่อนหน้านี้นั้นสามารถดาวน์โหลดหนังสือดังกล่าวในรูปแบบของ Kindle ในราคา 2.99เหรียญฯ หรือต่ำกว่านั้น ไปจนถึงดาวน์โหลดได้ฟรี