จากโครงสร้างธุรกิจหนังสือในยุคก่อนนั้น สำนักพิมพ์จะคอยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการผลิต ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อยเพื่อให้แน่ใจได้ว่าหนังสือที่ออกมาจะเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ โดยที่ตัวเองนั้นหาได้เป็นที่รู้จักของสาธารณชนแต่อย่างใด
การไม่เป็นที่รู้จักนี้เองที่คอยสิ่งปกป้องสำนักพิมพ์จากความเจ็บปวดหรือรู้สึกไม่ดีต่อความล้มเหลวบางอย่างที่เกิดขึ้น และยังช่วยให้กล้าที่จะเสี่ยงในแง่ของการเป็นสำนักพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนักเขียนหน้าใหม่ หัวเรื่องใหม่ ๆ หรือแนวความคิดใหม่ รวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งความล้มเหลวที่เกิดขึ้นจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของนักเขียนในความคิดของผู้อ่านมากกว่า นอกจากนี้การที่ร้านหนังสือต่าง ๆ แนะนำหนังสือใหม่ ๆ ของพวกเขาแต่กลับไม่ค่อยจะมีใครแนะนำสำนักพิมพ์ที่เป็นส่วนในการสร้างหนังสือใหม่ ๆ ออกมาให้เป็นที่รู้จัก
การมาถึงของอินเตอร์เน็ตและยุคดิจิตอลได้เคลื่อนเอาความไม่มีตัวตนของสำนักพิมพ์ออกไปจากโลกของข้อมูลข่าวสาร การค้นหาด้วยเสริ์ชเอ็นจินท์ทำให้ความมีตัวตนของสำนักพิมพ์เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามหากเทียบกับช่วงระยะเวลาหลายสิบปีที่การไม่แสดงตัวตนได้ปล่อยให้สำนักพิมพ์เสียประโยชน์ไปในบริบทยุคใหม่นี้ เมื่อมองไปในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เกือบจะทุกบริษัท ได้ใช้เวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาในการทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะทำให้ทุกคนบนโลกใบนี้รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม โลโก้และสินค้าของตนเอง
อย่างเช่นเมื่อเราได้ยินชื่อ Nike เราจะนึกถึงบางสิ่งที่ มีคุณภาพ แข็งแรงและมีสุขภาพดี เมื่อเราเห็นโลโก้ของ Apple เราจะรู้สึกถึง คุณภาพ ความงามและพละกำลัง หรือถ้าหากเราเห็นโลโก้ของ New York Time เราจะนึกถึง คุณภาพ การสืบสาวราวเรื่องและข้อมูลข่าวสาร บริษัททั้งหลายเหล่านี้ได้ต่อสู้เพื่อให้แน่ใจว่าตราสินค้าของพวกเขาเชื่อมโยงได้ถึงความมีคุณภาพและลักษณะเด่นบางอย่าง
ณ วันนนี้มีเพียงสำนักพิมพ์ไม่กี่แห่งที่สามารถสร้างแบรนด์ของต้นได้อย่างที่เรียกว่าประสบความสำเร็จ โดยการสื่อความหมายบางประการที่ต้องการไปยังกลุ่มผู้อ่าน สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่ไม่เคยใช้เวลาหรือทุ่มเทเวลาไปกับการสร้างแบรนด์นอกเสียจากการปั๊มตราโลโก้ของตนเองลงบนสันหนังสือ ดังนั้นชื่อสำนักพิมพ์และโลโก้จึงไม่สามารถสื่อสารอะไรได้นอกจาก “หนังสือ”
ในยุคดิจิตอลนี้ การเขียนและพิมพ์เผยแพร่ผลงานด้วยตนเองกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกขณะ ขณะเดียวกันผู้อ่านส่วนใหญ่ต้องการที่จะเห็นสัญลักษณ์อะไรบางอย่างที่บ่งบอกถึงความเป็นมืออาชีพ ความเชี่ยวชาญและคุณภาพของเนื้อหา ผู้อ่านกำลังมองหาความจริงที่จะช่วยพวกเขาในการแยกแยะข้าวเปลือกกับแกลบ ไม่ว่าจะในรูปแบบของออนไลน์หรือในร้านหนังสือ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีของสำนักพิมพ์ในการที่จะสร้างแบรนด์เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวของนักอ่าน
เส้นทางที่สำนักพิมพ์จะเปลี่ยนจากการไร้ตัวตนมาเป็นการมีอยู่ทั่่วทุกหนทุกแห่งนั้นจะง่ายขึ้นกว่าเดิมโดยอินเตอร์เน็ตเป็นตัวกำหนดโครงสร้างแบบใหม่ในการกระจายเนื้อหา และคำถามที่จำเป็นต้องตอบสำหรับสำนักพิมพ์แต่ละแห่งคือ “เราจะปรับตัวเข้ากับโครงสร้างของอินเตอร์เน็ตให้ดีได้อย่างไร”
เว็บไซต์ได้ทำให้เรื่องนี้ง่ายขึ้นมากสำหรับสำนักพิมพ์ที่เน้นหนังสือเฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะทางให้ปรับตัวเข้ากับโครงสร้างของอินเตอร์เน็ตและเริ่มสร้างแบรนด์ของตนมากกว่าที่จะเป็นเพียงสำนักพิมพ์ที่เน้นขายหนังสือแต่เพียงอย่างเดียว สำนักพิมพ์ที่ทำหนังสือเฉพาะกลุ่มนั้นค่อนข้างได้เปรียบในการที่สามรถทุ่มเททรัพยากรของตนไปยังหัวเรื่องและกลุ่มผู้อ่านที่ชัดเจนกว่าสำนักพิมพ์ทั่ว ๆ ไปที่จะมีความหลากหลายของหัวเรื่องที่แตกต่างกันในแต่ละหมวดหมู่เนื้อหารวมทั้งมีกลุ่มผู้อ่านที่หลากหลายกว่า ดังนั้นการเน้นเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงจึงเป็นสิ่งที่สามารถสร้างมูลค่าได้อย่างรวดเร็ว
