เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Amazon ได้ประกาศขยายระยะเวลาการยืม e-book ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้ออกไปในอังกฤษ
Kindle Lending Library ถือเป็นมูลค่าเพิ่มสำหรับลูกค้ากลุ่ม Amazon Prime ซึ่งเป็นบริการพิเศษที่ให้ลูกค้าสามารถจัดส่งสินค้าได้ในวันรุ่งขึ้นนั้นจะคิดค่าบริการอยู่ที่ 49 ปอนด์ต่อปีในอังกฤษ และยอมให้ผู้ใช้ยืมหนังสือได้หนึ่งเล่มจาก Kindle e-book กว่า 200,000 รายการ ในช่วงระยะเวลาที่เปิดให้ยืมได้ฟรีในแต่ละเดือน
สำหรับ Kindle Lending Library ในสหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมานั้น สำนักพิมพ์บางแห่งไม่ได้วิตกกังวลมากนักเนื่องจากเห็นว่ามีผลกระทบกับบริการให้ยืม e-book ด้วยกันเองมากกว่า แต่จะมีปัญหาอยู่บ้างก็ตรงที่ Amazon มีรายการหนังสือที่ให้บริการโดยปราศจากการยินยอมจากสำนักพิมพ์ ซึ่งทาง Amazon ก็แย้งว่า อาศัยการตีความข้อตกลงที่ทำกับสำนักพิมพ์อย่างคร่าว ๆ บนพื้นฐานทางกฏหมาย นั่นก็เป็นเหมือนสิ่งที่เรียกว่า ” ทำไปก่อนแล้วค่อยมาขอโทษทีหลัง” ที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่มักใช้บริหารจัดการธุรกิจของตัวเอง
มีการตั้งคำถามว่า Amazon จ่ายเงินไปมากน้อยเพียงใดให้กับสำนักพิมพ์ต่อ e-book หนึ่งเล่มและได้มีการต่อรองเรื่องผลตอบแทนในส่วนของ e-book ที่เปิดให้ยืมแบบไม่มีกำหนดระยะเวลาให้แตกต่างจากหนังสือตัวเล่มที่นำมาวางขายหรือไม่ ? ตรงนี้เองที่สำนักพิมพ์มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะถูกลดมูลค่าธุรกิจตัวเอง
แนวทางของ Kindle Lending Library นั้น Amazon ได้จ่ายเงินให้กับสำนักพิมพ์ในราคามาตรฐานแบบขายส่งสำหรับ e-book แต่ละเล่มที่มีการยืมผ่าน Kindle Lending Library
ทำไม Amazon ถึงเต็มใจในการยอมรับเงื่อนไขนี้ ? อาจมีเหตุผลหนึ่งที่เป็นไปได้ นั้นก็คือ Amazon Prime เป็นเหมือนกับ บริการที่มีมูลค่าเพิ่ม ทำกำไรได้มากมาย และมันสามารถเป็นทางเดียวที่จะทำกำไรได้ถ้าหากลูกค้าส่วนใหญ่ยอมจ่ายเพื่อให้ได้รับบริการที่พวกเขาไม่ได้ต้องการจริง ๆ เหมือนอย่างกับการเปิดบัญชีธนาคารที่พ่วงการขายโทรศัพท์หรือประกันการท่องเที่ยวที่เราไม่เคยได้เคลมใช้สิทธิ์
ส่วนข้อสังเกตอื่น ๆ ในการทำแบบนี้ก็คือการเปิดให้มี Kindle Lending Library นั้นเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากสำหรับการหมุนเงินให้กับระบบสำนักพิมพ์ในอังกฤษมากกว่าระบบห้องสมุดสาธารณะ
โดยสรุปก็คือ เมื่อห้องสมุดต้องการซื้อหนังสือสักเล่ม พวกเขามักจะซื้อมันในราคาขายส่งกับสำนักพิมพ์เพียงครั้งเดียว ซึ่งหนังสือเล่มเดียวกันนั้นสามารถถูกอ่านได้เรื่อย ๆ ไปจนถึงเป็นร้อยครั้งโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินให้สำนักพิมพ์อีกแตในบริบทของ Kindle สำนักพิมพ์และผู้แต่งยังได้รับส่วนแบ่งเรื่อย ๆ