ตั้งแต่ที่ Amazon เปิดสำนักพิมพ์ของตนเองนั้น ต้องเผชิญกับแรงต้านจาก Barnes & Noble และร้านหนังสือขนาดเล็กมากมายที่จะไม่ยอมวางขายหนังสือของสำนักพิมพ์ Amazon ดังนั้น Amazon จึงต้องหาหนทางใหม่ในการที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้อ่านได้โดยตรง
ในตอนแรก Amazon เปิดแผนการขาย Kindle First โดยจะนำเสนอ e-book ที่บรรณาธิการเลือกมาสี่เล่มในแต่ละเดือน ซึ่งสี่เล่มที่ว่านี้จะมีการตีพิมพ์ตัวเล่มออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนถัดไป และลูกค้าสามารถซื้อหนึ่งใน e-book เหล่านี้ในราคาเพียง 1.99 เหรียญฯ หากเป็น Prime member สามารถเลือกอ่านหนึ่งใน e-book เหล่านี้ได้ฟรีอีกด้วย
Katie Finch ประชาสัมพันธ์ของ Amazon Publishing ระบุในอีเมล์ว่า ” Kindle First pick นั้นจะถูกแนะนำในหน้าบทบรรณาธิการว่าทำไมถึงเลือกหนังสือเล่มดังกล่าว รวมทั้งหนังสือเล่มนั้นต้องตาต้องใจบรรณาธิการได้อย่างไรในตอนแรก”
นอกจากนี้แล้วลูกค้าที่ซื้อ e-book ยังจะสามารถใช้สิทธิซื้อหนังสือเดียวกันในแบบตัวเล่มได้ถูกกว่า ราคาขายปลีกที่ลดแล้วอีกด้วย
Russ Grandinetti รองประธานฝ่ายเนื้อหา Kindle บอกว่า new Kindle First program นี้จะช่วยให้หนังสือจากสำนักพิมพ์ของเรามีโอกาสเข้าถึงกลุ่มผู้อ่านได้มากขึ้น และเมื่อถามถึงว่า หากเป็นหนังสือของสำนักพิมพ์อื่นจะสามารถนำเสนอหนังสือของตนได้แบบเดียวกันนี้หรือไม่ เขาตอบ “ต้องคอยดูกันต่อไป”
ร้านหนังสือจำนวนมากพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “พอก็คือพอ” เพราะทั้งนี้ไม่เพียงแต่ Amazon พยามยามครอบงำธุรกิจค้าปลีกหนังสือแล้ว ยังกำลังที่จะครอบงำกิจการสำนักพิมพ์อีกด้วย
ร้านหนังสือขนาดเล็กบางแห่งตัดสินใจไม่วางจำหน่ายหนังสือจากสำนักพิมพ์ของ Amazon และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ร้านหนังสือในเครือ Barnes & Noble ซึ่งเป็นเครือร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ รวมทั้งร้านหนังสือขนาดใหญ่อื่นๆ ก็ดำเนินแนวทางเดียวกันนี้
แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวว่า Kirshbaum ลาออกจาก Amazon เพื่อกลับมาเป็นตัวแทนนักเขียนเสนองานให้สำนักพิมพ์ต่าง ๆ เหมือนที่ทำมาก่อนหน้าอีกครั้ง อาจเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างถึงปัญหาที่มีในสำนักพิมพ์ Amazon ก็เป็นได้ ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป